หุ้นไทยปิดตลาดร่วงยับ -38.41 จุด หลุด 1300 จุด กลายเป็นจุดต่ำสุดหรือ New Low ในรอบเกือบ 4 ปี นักวิเคราะห์ชี้ ปัจจัยหลักมาจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยลง หลังตัวเลขว่างงานเพิ่มมากขึ้นกว่าที่ประเมินไว้ หนุนคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย 0.50% กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก มองแนวโน้มวันพรุ่งนี้ตลาดยังคงแกว่งตัวในกรอบจำกัดแนวรับที่ 1,260 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,290 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซือขายวันที่ 5 ส.ค. 2567 ปรับตัวลดลงกว่า -38.41 จุด หรือ -2.93% โดยปิดตลาดที่ 1,274.67 จุด มุลค่าการซื้อขาย 58,744.07 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีปรับตัวลดลงต่อเนื่องทั้งวันตั้งแต่เปิดตลาดในภาคเช้า โดยทำระดับต่ำสุดใหม่ในรอบเกือบ 4 ปี ระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,296.11 จุดในทิศทางขาลงที่ลดลงต่ำสุด 1,273.17 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 37 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 74 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 550 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อ สุทธิกว่า +564.67 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -72.22 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -478.68 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -13.77 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 4,316.66 ล้านบาท ปิดที่ 240.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
2.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,009.40 ล้านบาท ปิดที่ 95.25 บาท ลดลง 5.75 บาท
3.GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,232.20 ล้านบาท ปิดที่ 47.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
4.TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,117.21 ล้านบาท ปิดที่ 9.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,199.98 ล้านบาท ปิดที่ 56.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่240.00บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 0.84%
2.SKY ปิดที่15.90บาท เพิ่มขึ้น 0.70บาท หรือ 4.61%
3.TRUE ปิดที่9.65บาท เพิ่มขึ้น 0.25บาท หรือ 2.66%
4.BDMS ปิดที่26.00บาท เพิ่มขึ้น 0.25บาท หรือ 0.97%
(วันนี้ดัชนีSET 100 หุ้นที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมากสุดมีเพียง 4ตัว)
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCCปิดที่206.00 บาท ลดลง 11.00บาท หรือ 5.07%
2.DELTA ปิดที่95.25 บาท ลดลง 5.75บาท หรือ 5.69%
3.AEONTS ปิดที่112.50 บาท ลดลง 4.50บาท หรือ 3.85%
4.HANA ปิดที่41.50 บาท ลดลง 3.50บาท หรือ 7.78%
5.KBANK ปิดที่129.50 บาท ลดลง 3.50บาท หรือ 2.63%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,749.85 จุด ลดลง -51.68 จุด หรือ -2.87% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 805.95 จุด ลดลง -21.68 จุด หรือ -2.62% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 311.13 จุด ลดลง -11.43 จุด หรือ -3.54%
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวร่วงไปเกือบ 40 จุดแตะระดับต่ำสุดใหม่ (New Low) ในรอบเกือบ 4 ปี รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานลงแรง จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะ Recession หลังตัวเลขว่างงานสูงขึ้นต่อเนื่อง และแย่กว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ก่อนหน้านี้ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐก็ลงมาต่ำกว่าระดับ 50 หนุนคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจต้องปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 0.50%
ขณะที่บรรยากาศการลงทุนในเอเซียก็ไม่ดีนัก โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นลงไปเกือบ 13%, ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ และตลาดหุ้นไต้หวัน ลบเกือบ 9% ส่วนตลาดหุ้นไทยแม้จะร่วงแรงแต่ก็ถือว่าปรับตัวลงน้อยกว่าเพื่อน
"แนะนำนักลงทุนติดตามการเปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือน ก.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ในคืนนี้ โดยตลาดประเมินว่าจะอยู่ที่ 51.4 หากออกมาต่ำกว่าคาด อาจเป็นแรงกดดันให้ตลาดปรับตัวลงต่อได้ ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนีฯ แกว่งในกรอบ แนวรับที่ 1,260 จุด และแนวต้าน 1,290 จุด" นายวทัญ กล่าวทิ้งท้าย