เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาราคาของ BTC ปรับตัวต่ำที่สุดในรอบ 5 เดือน ทดสอบบริเวณ 53,500 ดอลลาร์ จากการเทขาย Bitcoin ของรัฐบาลเยอรมันและการประกาศคืนเงินจาก Mt.gox ซึ่งนับเป็นมูลค่ากว่า 6,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 90,000 BTC อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงมีความคาดหวังในระยะกลางถึงระยะยาว เนื่องจากปัจจัยการเปิดซื้อขาย Ethereum spot ETF ทำให้ราคา BTC ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดกว่า 30%
นายวรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า Merkle Capital มองว่า Bitcoin และ Ethereum มีแนวโน้มที่สามารถเติบโตได้สูงในเดือนสิงหาคม โดยเฉพาะ Ethereum Ecosystem ที่โดนกดดันจากปัจจัยระยะสั้นในเดือนที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลดังนี้
1) ตลาดทดสอบความกังวลสูงสุดแล้วในเดือนกรกฎาคม
เดือนกรกฎาคมถือเป็นหนึ่งในเดือนที่นักลงทุนกังวลมากที่สุด เนื่องจากมีแรงเทขายจริงจากรัฐบาล เยอรมันกว่า 10,000 BTC และมีการคืนเงินของ Mt.gox แก่เจ้าหนี้ 80,000 BTC จากทั้งหมด 140,000 BTC แม้ประเด็นนี้จะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเจ้าหนี้จะเทขายหรือไม่ แต่นักลงทุนส่วนมากรับรู้ข่าวหลังจากที่ราคา ทดสอบ 53,500 ดอลลาร์ แล้ว รวมถึงการโอนย้ายของรัฐบาลสหรัฐฯ กว่า 30,000 BTC ไปยังปลายทางที่ไม่ สามารถตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีโอกาสถูกเทขายสูงสุดถึง 120,000 BTC ในเดือนที่ผ่านมา แต่ราคา ของ BTC ยังคงต่ำกว่าราคาสูงสุดเพียง 10% เท่านั้น แสดงถึงความมั่นใจของนักลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว
2) การปรับตัวขึ้นของ Bitcoin Dominance ทำระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนและ 3 ปี
แม้จะมีการเทขาย Bitcoin เกิดขึ้นจากปัจจัยข้อที่ 1 แต่ตลาดแสดงถึงความกังวลต่อเหรียญมูลค่าตลาด ขนาดเล็กมากกว่า Bitcoin เป็นเหตุให้อัตรา Bitcoin dominance (สัดส่วนมูลค่าตลาดของ Bitcoin เปรียบเทียบ กับมูลค่าตลาดทั้งหมดของคริปโทฯ) ปรับตัวขึ้นทดสอบบริเวณ 56.7% ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 3 เดือนและ 3 ปี ดังนั้น แม้นักลงทุนจะมีความกังวลระยะสั้น แต่ในระยะกลางและระยะยาวยังคงเชื่อมั่นใน Bitcoin เมื่อความกังวลใน เดือนสิงหาคมผ่อนคลายลง จึงเป็นโอกาสที่ทำให้ Bitcoin อาจมีแรงซื้อจากเงินลงทุนใหม่ได้
3) การเปิดซื้อขายครั้งแรกของ Ethereum spot ETF
แม้ราคา ETH มีการปรับตัวต่ำลงกว่า 20% ทดสอบบริเวณ 2,800 ดอลลาร์ แต่จากปัจจัยการเปิดซื้อขาย ETH spot ETF ทำให้มีแรงซื้อเกิดขึ้น ส่งผลให้ราคาของ ETH ปรับตัวขึ้นกว่า 26% ภายใน 20 วัน ซึ่งเมื่อเปรียบ เทียบกับเหตุการณ์การอนุมัติ Bitcoin spot ETF แล้ว Ethereum มีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกันเนื่องจากมี มูลค่าตลาดที่เล็กกว่า Bitcoin อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น ภาพรวมของ Ethereum spot ETF ยังติดลบเนื่องจาก แรงเทขายของ Grayscale ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ของ Bitcoin ในช่วงต้นปี ดังนั้น แรงเทขายระยะสั้นอาจ ส่งผลให้ราคาของ ETH ต่ำเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแรงและสถิติของ BTC หลังอนุมัติ Bitcoin spot ETF
นายมานะ คานิโยว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านพัฒนาธุรกิจและพาณิชย์ บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนักลงทุนที่สนใจในสินทรัพย์ดิจิทัล อาจดูภาพใหญ่ (Macro Factors) ของตลาดเป็นส่วนประกอบ รวมถึงปัจจัยหนุน เช่น ดอกเบี้ยที่กำลังปรับลดเเละการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีในสหรัฐที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่เติบโตในทิศทางที่ดี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการมีส่วนร่วมในสินทรัพย์ใหม่แก่นักลงทุน
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความ เสี่ยง ควรวิเคราะห์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน