อานิสงส์ TESG ยังหนุนหุ้นไทยต่อเนื่องปิด +1.89 จุด นักวิเคราะห์เผยวันนี้หุ้นไทยแกว่งตัวสลับแดนบวกและลบ โดยช่วงเช้าปรับตัวขึ้นตามตลาดภูมิภาค แต่กลับย่อตัวลงในช่วงบ่ายจากแรงเทขายทำกำไรหลัง SET ไต่ระดับแดนบวกต่อเนื่อง 4 วันติดกันรวมกว่า 30 จุด ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้คาดว่ายังแกว่งตัวคล้ายวันนี้ โดยมองแนวต้านที่ 1,325-1,330 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,315 จุด แนะติดตามปัจจัยแทรกซ้อนทั้งในและต่างประเทศ
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 1 ส.ค. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.89 จุดหรือ +0.14% โดยปิดตลาดที่ 1,322.75 จุด มูลค่าซื้อขายราว 36,835.90 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวสลับทั้งแดนบวกและลบ โดยส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก ซึ่งมีการย่อตัวปรับลดลงไปในแดนลบภาคก่อนที่จะฟื้นกลับขึ้นมาเล็กน้อยและปิดตลาดในแดนบวก ระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,329.76 จุด ในทิศทางตรงข้ามที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดต่ำสุด 1,319.29 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 233 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 175 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 238 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +141.35 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +418.55 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -206.51 ล้านบาท และ นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -353.39 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.EA มูลค่าการซื้อขาย 2,392.14 ล้านบาท ปิดที่ 3.82 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาท
2.CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,771.90 ล้านบาท ปิดที่ 23.10 บาท ลดลง 0.90 บาท
3.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,551.41 ล้านบาท ปิดที่ 103.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,523.32 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,477.08 ล้านบาท ปิดที่ 58.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่151.00บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 2.72%
2.AEONTS ปิดที่117.00บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 2.18%
3.RCL ปิดที่24.90บาท เพิ่มขึ้น 2.20บาท หรือ 9.69%
4.BCP ปิดที่33.50บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 6.35%
5.DELTA ปิดที่103.50บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 1.47%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SISB ปิดที่ 31.50บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 3.08%
2.TCAP ปิดที่46.00บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.13%
3.SCC ปิดที่ 220.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.45%
4.ADVANC ปิดที่233.00บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.43%
5.CPF ปิดที่ 23.10บาท ลดลง0.90 าท หรือ 3.75%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,815.06 จุด เพิ่มขึ้น 2.82 จุด หรือ 0.16% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 832.82 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด หรือ 0.11% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 328.03 จุด ลดลง -1.60 จุด หรือ -0.49%
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่าว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับขึ้นตามตลาดภูมิภาค แต่เริ่มเห็นแรงขายหลังชั่วโมงแรก เป็นการขายทำกำไรหลังจากดัชนี SET ขึ้นมา 4 วันติดต่อกัน รวมกว่า 30 กว่าจุด จากความคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.
โดยวันนี้มีแรงขายทำกำไรออกมามากในช่วงบ่าย เพราะตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยหนุนให้ไปต่อ ต่างจากตลาดหุ้นอื่นที่มีอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนตลาด ทำให้มีแรงขายสลับแรงเก็งกำไร โดยเฉพาะหุ้นเล็กขณะที่บางกลุ่มก็ยังยืนบวกได้ในช่วงบ่าย
"แนวโน้มพรุ่งนี้มองว่าตลาดจะเคลื่อนไหวลักษณะจะคล้ายวันนี้ แต่ไม่แรง โดยให้แนวต้านที่ 1,325-1,330 จุด แนวรับที่ 1,315 จุด และคาดว่าในสัปดาห์หน้าตลาดจะแกว่งไซด์เวย์ช่วง 1,300-1,330 จุด แนะนำนักลงทุน ติดตามผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในคำวินิจฉัยคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 14 ส.ค.นี้" นายถนอมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย