สื่อดังคาดเดือนสิงหาคมนี้จะครบกำหนดการปลดล็อกเหรียญโทเคนดิจิทัลสกุลต่างๆมูลค่ารวมกันกว่า 900 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจทำให้เกิดการเทขายในตลาดคริปโต ส่งให้มีราคาซื้อขายผันผวนและอาจปรับตัวร่วงลง
โคลิน วู นักข่าวด้านบล็อคเชน รายงานโดยอ้างอิง TokenUnlocks ว่าเดือนสิงหาคมนี้ จะมีการปลดล็อกโทเค็นมูลค่าเกือบพันล้านดอลลาร์ ซึ่งหลังจากปลดล็อกจะทำให้เหรียญดังกล่าวย้ายเข้าสู่ตลาดคริปโต โดยปริมาณเหรียญที่มีการปลดล็อกบางส่วนที่ใหญ่ที่สุด ได้แก่การปลดล็อกจากการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEX) dYdX , บล็อกเชนเลเยอร์หนึ่ง SUI และ Ethereum เลเยอร์ 2 และ Arbitrum หรือ ARB
การปลดล็อกโทเค็นในปริมาณมหาศาลครั้งนี้ จะเกิดขึ้นช่วงวันที่ 7 สิงหาคม โดยมาจากโปรโตคอลการทำงานร่วมกันแบบข้ามสายโซ่ (Wormhole) ซึ่งจะปล่อยโทเค็น W มูลค่า 154 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 33% ของอุปทาน
ขณะที่บริษัทวิเคราะห์ IntoTheBlock รายงาน เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า โปรเจ็กต์ต่างๆ เช่น โปรเจ็กต์ "proof-of-person" ของ แซม อัลท์แมน (CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ) อย่าง Worldcoin ( WLD ), แพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) อย่าง Stargate Finance ( STG ) และบล็อกเชนเลเยอร์ 2 อย่าง Mantle ( MNT ) ต่างก็มีการปลดล็อกโทเค็นรายวัน ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างสูงของมูลค่าตลาดตามข้อมูลของบริษัท
อย่างไรก็ดี บริษัทสังเกตเห็นว่าการดำเนินการด้านราคาของ WLD, STG และ MNT อาจได้รับผลกระทบเนื่องจากจำนวนโทเค็นใหม่ที่ถูกออกทุกวัน
อย่างไรก็ดีบิทคอยน์ที่มีมูลค่ารวมประมาณ 24.9 ล้านเหรียญสหรัฐ จะถูกปลดล็อคทุกวัน แม้ว่าจะมีผลกระทบต่อมูลค่าตลาดเพียงเล็กน้อยก็ตาม
ขณะที่ Stargate, Worldcoin และ Mantle มีการปลดล็อกที่สำคัญเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาด ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความกดดันในตลาดซื้อขายคริปโตได้