ชั่วโมงนี้ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA มีแต่ข่าวร้ายข่าวลบไม่จบไม่สิ้น โดยเฉพาะการถอยหนีของบรรดาพันธมิตรต่างๆ จนดูเหมือนจะเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ถูกปล่อยให้ยืนฝ่ามรสุมอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK เพิ่งประกาศระงับเงินกู้ให้ EA หลังจากปล่อยเงินกู้ไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท และได้ตั้งสำรองหนี้เผื่อสงสัยจะสูญตามหลักเกณฑ์แล้ว
EXIM BANK ปิดประตู ปิดโอกาสที่ EA จะขอกู้เพิ่มเติมแล้ว และเชื่อว่าสถาบันการเงินอื่นก็คงจะไม่ปล่อยเงินกู้ให้ EA เช่นเดียวกัน ช่องทางการหาแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงิน เพื่อเสริมสภาพคล่องหรือสำรองเพื่อเตรียมไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดใน 2 เดือนข้างหน้าจำนวน 5.5 พันล้านบาทถูกปิดตาย
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ออกมาปฏิเสธข่าวลือ โดยยืนยันไม่มีแนวความคิดซื้อ EA
ล่าสุด นายชัชวาล เจียรวนนนท์ ประกาศขอลาออกจากกรรมการบริษัท โดยอ้างว้ามีภารกิจมากและไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่
ใครๆ ต่างหันหลังให้ EA ตอกย้ำภาพลักษณ์เชิงลบของบริษัท หลังจากนายสมโภชน์ อาหุนัย อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กล่าวโทษในความผิดร้ายแรง ทุจริตการซื้ออุปกรณ์และซอฟต์แวร์ สร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ วงเงิน 3,465 ล้านบาท
การอยู่ใน EA มีแต่เปลืองตัว และที่สำคัญ ไม่อาจฟื้นฟูฐานะการดำเนินงานหรือแก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินได้ จึงเลือกที่จะโดดหนีออกไปดีกว่า ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีกรรมการ EA คนไหนจะเผ่นตามนายชัชวาลอีก
ราคาหุ้น EA และบริษัทในกลุ่ม ทั้งบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD แทบไม่ต้องพูดถึง ปักหัวลงลูกเดียว และไม่มีสัญญาณการดีดตัวกลับ เพราะไม่มีข่าวดีที่รอคอย มีแต่ข่าวร้ายที่คืบคลานเข้ามาใกล้ทุกที
วันที่ 9 สิงหาคมนี้ ครบกำหนดวันที่ต้องชำระหนี้ ตั๋วแลกเงินจำนวน 700 ล้านบาท หลังจากที่ขอเลื่อนการชำระจากสิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และนักลงทุนกำลังลุ้นระทึกว่า EA จะหาเงินมาไถ่ถอนตั๋วแลกเงินได้หรือไม่
เพราะถ้าหนี้เพียง 700 ล้านบาท EA ยังหาเงินมาจ่ายไม่ได้ หุ้นกู้วงเงิน 5.5 พันล้านบาทที่จะครบกำหนดไถ่ถอนภายในเดือนกันยายนนี้ ผู้ถือหุ้นกู้จำนวนนับพันคนน้ำตาตกกันอีกแน่
และราคาหุ้น EA ที่เคยสร้างจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.54 บาท ก็มีโอกาสที่จะไหลทะลุสร้างจุดต่ำสุดใหม่ ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนกว่า 4.2 หมื่นรายต้องช้ำหนัก
ไม่มีใครช่วยกู้สถานการณ์ของ EA ได้เลย เพราะเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ นายสมโภชน์ก็อยู่ในฐานะช่วยตัวเองไม่ได้ นอกนั้นไม่มีใครมีความสามารถเพียงพอที่จะนำพาองค์กรให้พ้นจากวิกฤตครั้งนี้
การตัดส่วนทรัพย์สินออกขายเพื่อนำเงินมาแก้ปัญหาหนี้ระยะสั้น อาจเป็นทางเลือกเดียวของ EA แต่คำถามคือ มีทรัพย์สินอะไรที่จะขายเป็นเงินก้อนโตได้ จะมีก็แต่โรงไฟฟ้าเท่านั้น และเชื่อว่ายังมีผู้สนใจอยู่ เพียงแต่การเจรจาเรื่องราคาเท่านั้น
ชะตากรรมของ EA ช่างมืดมนจริงๆ โจทย์ของผู้บริหารบริษัทน่าจะมีเพียงข้อเดียว
ทำอย่างไรจะช่วยให้ผู้ถือหุ้นกู้ และนักลงทุนที่ถือหุ้น EA อยู่กว่า 4 หมื่นรายเสียหายน้อยที่สุด