ไซมิส แอสเสท นำเงินไถ่ถอนหุ้นกู้ 2 ชุด รวมมูลค่า 1,347.6 ล้านบาท ชุดแรก SASST247B จ่ายคืนได้ตามกำหนดมูลค่า 675.40 ล้านบาท อีกชุดสามารถไถ่ถอนก่อนกำหนด SASST248A มูลค่า 672.20 ล้านบาท สะท้อนสถานะการเงินแข็งแกร่ง เตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้ตามแผนงาน เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคต พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้แตะ 5,000-7,000 ล้านบาท
น.ส.รีย์ฐิตา อักษรจิรารัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชี บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินการชำระหุ้นกู้ที่ได้ออกและเสนอขาย จำนวน 2 รายการ ประกอบด้วย SASST247B ที่มีอายุ 1 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย 6.50% ต่อปี (ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน) เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 675.40 ล้านบาท และ SASST248A ที่มีอายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี มีประกัน (จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน) เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 17 สิงหาคม 2567 จำนวน 672.20 ล้านบาทแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการเสนอขายหุ้นกู้ในแต่ละครั้งโดยจัดสรรอย่างเหมาะสมกับแผนการดำเนินธุรกิจ จึงไม่เน้นการขายจำนวนมากและบริหารจัดการทางการเงินด้วยความละเอียดรอบคอบ พร้อมให้ความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัททุกราย ที่ผ่านมาบริษัทได้จ่ายดอกเบี้ยและคืนเงินหุ้นกู้ครบตามกำหนด
"ในช่วงครึ่งหลังปีนี้บริษัทมีหุ้นกู้ครบกำหนดไถ่ถอนจำนวน 3 ชุด ได้แก่ SASST247A ซึ่งชำระไปช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และล่าสุด SASST247B , SASST248A ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการชำระคืนหุ้นกู้ครบทุกรุ่นเรียบร้อยแล้วทั้งตามกำหนดและก่อนครบกำหนดไถ่ถอน โดยพิจารณาถึงการสร้างความมั่นใจในการบริหารจัดการ และรักษาผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน และแสดงให้เห็นว่าเงินทุนที่บริษัทได้รับจากการระดมทุนทุกครั้งได้ถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างถูกต้องและโปร่งใส เพื่อเสริมสร้าง และพัฒนาโครงการต่างๆ ตามแผนธุรกิจที่วางไว้” น.ส.รีย์ฐิตา กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่องจากปี 2566 โดยตั้งเป้าหมายรายได้อยู่ที่ระดับ 5,000-7,000 ล้านบาท เนื่องจากมีแผนการทยอยโอนโครงการ Landmark At MRTA Station ต่อเนื่องจากปีก่อน ประกอบกับมียอดขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) อยู่ประมาณ 7,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ภายในปีนี้ประมาณ 68% อีกทั้งมีแนวโน้มการรับรู้รายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น เช่น ธุรกิจโรงแรม และร้านอาหาร จึงเป็นปัจจัยที่สนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตได้อย่างโดดเด่น