xs
xsm
sm
md
lg

ทิสโก้คาดเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง เงินทั่วโลกจ่อเข้าตลาดหุ้น EM

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



TISCO ESU คาดธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งปีนี้ ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า หนุนเม็ดเงินทั่วโลกโยกเข้าตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) ประกอบกับตลาดหุ้น EM มีปัจจัยบวกอีก 3 ประเด็น คือ 1.เศรษฐกิจฟื้น 2.จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และ 3.ราคาหุ้นค่อนข้างถูก

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU)
เปิดเผยว่า TISCO ESU ยังคงมองว่าตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) เป็นตลาดหุ้นที่เหมาะสมกับการเข้าลงทุนในช่วงนี้ โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีจะเห็นเม็ดเงินจากทั่วโลกไหลเข้าตลาดหุ้น EM เพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาอ่อนค่าจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกเริ่มเป็นขาลงอย่างชัดเจน นำโดยธนาคารกลางยุโรปเริ่มลดดอกเบี้ยไปแล้วในเดือนมิถุนายน ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คาดว่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเดือนกันยายน และจะลดดอกเบี้ยรวม 2 ครั้งในปีนี้

"จากอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงจนถึงระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2564 ประกอบกับการจ้างงานชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้ Fed ต้องเริ่มพิจารณาลดดอกเบี้ยก่อนที่เศรษฐกิจจะชะลอลงจนเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย" นายคมศร กล่าว

นอกจากนั้น ตลาดเกิดใหม่ยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมได้แก่ 1.เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นโดยนักเศรษฐศาสตร์เริ่มกลับมาปรับคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนั้น ภาคการผลิตและส่งออกยังอาจได้รับแรงหนุนจากการเร่งนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ก่อนจะเกิดความไม่แน่นอนจากผลของกำแพงภาษีหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน

2.การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน โดยก่อนหน้านี้จีนได้ทยอยประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ เช่น มาตรการลดเงินดาวน์ ยกเลิกอัตราดอกเบี้ยขึ้นต่ำ และการให้วงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจำนวน 3 แสนล้านหยวนให้รัฐบาลท้องถิ่นเพื่อนำไปซื้อบ้านส่วนเกินในตลาด เพื่อพยุงราคาอสังหาริมทรัพย์ มาตรการดังกล่าวน่าจะช่วยเพิ่มความมั่นในภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นต้นเหตุความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีน

และ 3.ระดับมูลค่าหุ้น (Valuation) ที่ค่อนข้างถูก โดยดัชนีหุ้นในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ซื้อขายในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตค่อนข้างมาก ซึ่งต่างจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งซื้อขายใกล้เคียงระดับแพงสุดเป็นประวัติการณ์ ดังนั้น ตลาดเกิดใหม่จึงน่าจะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนกลับมาได้ในช่วงเปลี่ยนผ่านดอกเบี้ยเป็นขาลงเช่นในปัจจุบัน
กำลังโหลดความคิดเห็น