ตำรวจฮ่องกงดำเนินการเข้าจับกุม 4 ผู้ต้องหา ในคดีฉ้อโกงสกุลเงินคริปโตมูลค่ารวมกว่า 11 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง โดยทางการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ยังคงเรียกร้องให้ประชาชนยระมัดระวังและตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมายของธุรกรรมทางการเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงข้องกลุ่มมิจฉาชีพ ที่เพิ่มขั้นตอนที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
ตำรวจฮ่องกงเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวน 4 ราย โดยในผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม มีเยาวชนอายุเพียง 14 ปีรวมอยู่ด้วย ซึ่งในการเข้าจับกุมครั้งนี้ เป็นหนึ่งในปฏิบัติการปราบปรามการฉ้อโกงทางการเงินครั้งสำคัญ โดยกล่าวหาว่าผู้ต้องสงสัยเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรที่ใช้ธนบัตรปลอมเพื่อฉ้อโกงเจ้าของสกุลเงินดิจิทัล
สื่อท้องถิ่นรายงานว่าปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งมีผู้เสียหายที่สูญเสียเงินมากถึง 11 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยการจับกุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ในการปราบปรามการฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคนี้
สืบจับกุมหัวหน้าแก๊ง
หลอ หยวนชาน หัวหน้าผู้ตรวจการ กรมอาชญากรรมเชิงพาณิชย์ เขตปกครองพิเศษฮ่องกงเปิดเผยเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมว่า การจับกุมครั้งล่าสุดนี้ทำให้จำนวนผู้ที่ถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกงเหล่านี้เพิ่มขึ้นเป็น 14 ราย นับตั้งแต่เดือนตุลาคมของปีที่แล้ว
โดยจากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องสงสัยซึ่งมีอายุระหว่าง 14 ถึง 39 ปี ซึ่งถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ในข้อหาสมคบคิดฉ้อโกง ครอบครองและใช้ธนบัตรปลอมจำนวน 5,000 ฉบับ
ตำรวจได้ขยายผลถึงพฤติกรรมของอาชญากรกลุ่มดังกล่าวว่า โครงสร้างขององค์กรนี้ได้มีการวางแผนมอบหมายหน้าที่เฉพาะให้กับสมาชิกแต่ละคน ซึ่งผู้ต้องสงสัย 2 ราย ได้รับการระบุว่าเป็นผู้วางแผนที่รับผิดชอบในการจัดหาธนบัตรปลอมจากคลังเก็บขนาดเล็กในย่านมงก๊ก ในขณะที่ผู้วางแผนจัดฉากสถานที่ใกล้เคียงโดยอ้างว่าเป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมาย
ขณะเดียวกัน กลุ่มอาชญากรดังกล่าวได้มีการแอบอ้างตัวเป็นนักลงทุนสกุลเงินดิจิทัลที่มีชื่อเสียง โดยพวกเขาล่อลวงเหยื่อด้วยข้อเสนอที่สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน สำหรับสกุลเงินดิจิทัล พวกเขายังกำหนดเป้าหมายเหยื่อที่มีศักยภาพทางออนไลน์อีกด้วย โดยแผนการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเชิญเหยื่อไปที่ออฟฟิสที่จัดฉากเป็นศูนย์ซื้อขายคลิปโตปลอม ซึ่งพวกเขาจะได้เห็นธนบัตรปลอมใบละมูลค่า 1,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (หรืออัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 128 ดอลลาร์สหรัฐ) ในปริมาณจำนวนมาก ซึ่งมีเพียงธนบัตรด้านบนและด้านล่างเท่านั้นที่เป็นของจริง โดยกลวิธีนี้เป็นหนึ่งในการหลอกลวงเหยื่อให้เชื่อว่าธนบัตรทั้งหมดเป็นของแท้ ขณะเดียวกันในระหว่างการทำธุรกรรม ยังห้ามไม่ให้เหยื่อแกะธนบัตรเหล่านี้ออก และยืนกรานว่าต้องทำธุรกรรมออนไลน์เพื่อชำระเงิน
การฉ้อโกงทางการเงินในฮ่องกง
เมื่อโอนเงินสกุลดิจิทัลแล้ว อาชญากรดังกล่าวจะรีบย้ายสินทรัพย์ออกจากบัญชีและปฏิเสธที่จะจ่ายเงิน ทำให้เหยื่อผู้หลงเชื่อไม่ได้รับอะไรเลย ขณะที่หัวหน้าผู้ตรวจการ หลอ หยวนชาน ตั้งข้อสังเกตว่าวิธีดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นในกรณีล่าสุดโดยอาชญากรกลุ่มนี้ และคนอื่นๆ ฉ้อโกงเหยื่อ 12 ราย เป็นเงิน 11 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 จนกระทั่งถูกจับกุมในที่สุด
การจับกุมดังกล่าวเน้นย้ำถึงการต่อสู้กับการฉ้อโกงทางการเงินที่กำลังดำเนินอยู่ในฮ่องกง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล
ขณะเดียวกัน ทางการฮ่องกง กำลังมีการดำเนินการตามล่าตัวผู้มีอิทธิพลในวงการคริปโตชื่อดังของฮ่องกง 2 คน จากการประสานงานกับหน่วยงานรัฐบาลทั่วโลก และอินเตอร์โพล ซึ่งก่อนหน้านี้มีความเชื่อมโยงกับการแลกเปลี่ยน JPEX ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงในดูไบ เนื่องจากพวกเขาถูกกล่าวหาว่าลักทรัพย์ ฉ้อโกง และฟอกเงิน