วันพุธที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ฟื้นขึ้นมาแรงยกแผง โดยมีข่าวลือ 2 ชิ้นใหญ่กระตุ้นเก็งกำไร
ข่าวลือกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ของนายคีรี กาญจนพาสน์ จะซื้อหุ้นบริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด ซึ่งบริษัท EA ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 20% ของทุนจดทะเบียน ถูกปฏิเสธมาจากผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 สัดส่วน 51% ของทุนจดทะเบียนแล้ว โดยยืนยันยังไม่ได้รับการติดต่อหรือข่าวสารการเจรจาซื้อหุ้นบริษัทแต่อย่างใด
ส่วนข่าวลือบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ของนายสารัชถ์ รัตนาวะดี จะซื้อหุ้น EA ไม่ได้ถูกสื่อมวลชนนำเสนอ แต่เป็นประเด็นที่พูดถึงกันทั้งตลาด
เพียงแต่จะเป็นข่าวลือที่ปล่อยกันขึ้นมาเอง เพื่อกระตุ้นการเก็งกำไรหุ้น EA หรือมีการติดต่อเจรจากันจริง
อย่างไรก็ตาม ข่าวลือเกี่ยวกับ GULF ได้หลุดราคาหุ้น EA ที่กำลังร่วงหลุม ทะลึ่งขึ้นมาทันทีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดย EA ปิดที่ 4.54 บาท เพิ่มขึ้น 82 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 22.04 บาท หุ้นบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ปิดที่ 80 สตางค์ เพิ่มขึ้น 6 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 8.11% และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD ปิดที่ 97 สตางค์ เพิ่มขึ้น 2 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 2.11%
EA จะต้องมีเจ้าภาพรายใหม่ หรือผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มใหม่เข้ามาแทนกลุ่มนายสมโภชน์ อาหุนัย เพราะถ้าไม่มีผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มใหม่เข้ามาเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ไม่เงินก้อนโตอัดฉีดเข้ามาเพื่อปลดเปลื้องภาระหนี้ที่ใกล้ครบกำหนดชำระคืน โดยเฉพาะหุ้นกู้วงเงิน 5.5 พันล้านบาท ที่ครบกำหนดไถ่ถอนใน 2 เดือนข้างหน้า วิกฤตมาเยือน EA แน่
แต่ใครจะเข้ามาเป็นเจ้าภาพ EA แทนกลุ่มนายสมโภชน์ จะใช่ GULF จริงหรือ
นายสารัชถ์ พร้อมจะแบกภาระหนี้ของ EA จำนวน 31,166 ล้านบาทหรือ และ EA ยังมีธุรกิจอะไรที่น่าสนใจ เพราะธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ได้รับเงินอุดหนุนหรือค่าเอดเดอร์แล้ว ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่รถไฟฟ้าก็ไม่คืบหน้าไปไหน
ธุรกิจผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเจอกับการแข่งขันตัดราคาที่รุนแรง และสาธารณรัฐประชาชนจีน เตรียมย้ายฐานการผลิตรถไฟฟ้าเข้ามาในประเทศไทย
ธุรกิจทุกด้านของ EA ไม่ได้มีความน่าสนใจเหมือนในอดีต และการลงทุนผลิตแบตเตอรี่ที่ทุ่มเทลงไปดูเหมือนจะสูญเปล่า จนแบกภาระหนี้สินก้อนโต และนำไปสู่คำถาม GULF จะเข้ามาเทกโอเวอร์ช่วยอุ้ม EA จริงหรือ
นักลงทุนที่จะตามแห่เก็งกำไรหุ้น EA จะต้องคิดให้หลายตลบ ต้องประเมินให้ชัดว่า EA จะฝ่าวิกฤตครั้งนี้ได้ มีเงินมาไถ่ถอนตั๋วแลกเงินจำนวน 700 ล้านบาท ที่ขอเลื่อนจ่ายเป็นวันที่ 9 สิงหาคมนี้
และมีเงินไถ่ถอนหุ้นกู้ 2 รุ่น วงเงิน 5.5 พันล้านบาท ที่จะครบกำหนดในเดือนสิงหาคมและกันยายนนี้
ถ้าสถานการณ์ยังไม่นิ่ง หุ้น EA มีความเสี่ยงสูง และแม้ไม่อาจปฏิเสธว่า ราคาหุ้นปรับตัวลงมาลึกมาก แต่ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าราคาจะกลับหัวขึ้น หรือฟื้นตัวขึ้นมาใหม่
ทางเลือกของ EA เหลืออยู่ทางเลือกเดียว ต้องหาพันธมิตรรายใหม่เข้ามาช่วยกอบกู้วิกฤต และต้องเร่งหาโดยเร็วที่สุด
เพราะเวลาของ EA เหลือน้อยเต็มที และช่วงเวลานี้คนที่เงินเหลือๆ ก็มีน้อยคนเต็มทีเสียด้วย
ขณะที่เจ้าของบริษัทจดทะเบียนนับร้อยๆ บริษัทกำลังมีปัญหาสภาพคล่อง วิ่งหาเงินกันให้ควัก หาแหล่งนำหุ้นไปตึ๊งกันจ้าละหวั่น
วิกฤต EA เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจซบเซาสุดขีด ความอยู่รอดของบริษัทจึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
จะตามแห่เก็งกำไรหุ้น EA ต้องนับ 1 หนึ่งถึง 1,000 ก่อน
