หุ้นเช้าปิดลบ 3.44 จุด (-0.26%) นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับลงน้อยกว่าภูมิภาค แต่ยังเสี่ยงไหลลงทางเทคนิคหลังหลุด 1,310 จุดลงมา กังวลงบบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่มไฟแนนซ์เสี่ยงหนี้ NPL พุ่งและตั้งสำรองเพิ่ม ขณะที่ปัจจัยการเมืองยังต้องรอความชัดเจนคดีนายกฯเดือนหน้า ส่วนแถลงดิจิทัลวอลเล็ตเช้านี้ไม่มีข้อมูลใหม่ แนวโน้มช่วงบ่ายคาดแกว่งลบต่อ
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค แต่น้อยกว่า หลังจากวานนี้ลงไปแรงกว่า 1% และหุ้นเล็กลงค่อนข้างมาก ซึ่งวันนี้ราคาฟื้นขึ้นมาได้บ้าง ทำให้ดัชนี SET ดูไม่แย่เท่าเมื่อวาน โดยภาพรวมนักลงทุนเลือกเล่นเป็นรายตัว
อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ดัชนี SET หลุดระดับ 1,310 จุดก็มีความเสี่ยงทางเทคนิค และมีโอกาสปรับตัวลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ระดับ 1,280 จุด ผู้ที่เล่นเก็งกำไรต้องใช้ความระมัดระวัง
ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศ ยังต้องรอความชัดเจนในเดือน ส.ค.ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน วันที่ 14 ส.ค.67 รวมถึงการต่อรองกับพรรคร่วมรัฐบาลในประเด็นกัญชา ขณะที่การแถลงดิจิทัลวอลเล็ตเช้านี้ไม่ได้มีข้อมูลใหม่เพิ่มเติม และเม็ดเงินที่ใช้ในโครงการนี้ยังเสี่ยงลดขนาดโครงการ
แต่ในระยะสั้น ปัจจัยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/67 มีอิทธิพลต่อตลาดมากกว่า โดยเฉพาะกลุ่มไฟแนนซ์ที่นักลงทุนกังวลที่มีความเสี่ยงการตั้งสำรองเพิ่มและหนี้ NPL สูงขึ้น เพราะกลุ่มลูกค้ามีความเสี่ยงมากกว่าลูกค้าของแบงก์ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มพลังงานที่ผลประกอบการอาจชะลอตัวลง แต่คาดจะมีแรงเก็งกำไรกลุ่มที่มีโมเมมตัมบวก อาทิ กลุ่มสื่อสาร อาหาร ค้าปลีก
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,298.10 จุด ลดลง 3.44 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.26% มูลค่าซื้อขายราว 14,518 ล้านบาท
แนวโน้มการลงทุนช่วงบ่าย คาดว่าปรับลงต่อ แต่อาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มผลประกอบการดี พร้อมให้แนวรับที่ 1,290 จุด แนวต้าน 1,305 จุด