นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK) เปิดเผยเว่า สินเชื่อเพื่อความยั่งยื่น (สินเชื่อสีเขียว:Green lonan) ของธนาคารยังเติบโตได้ดี โดยมีโอกาสปล่อยกู้เกินเป้าหมายในปีนี้ที่ตั้งไว้ 100,000 ล้านบาท ทำให้ธนาคารเตรียมปรับเป้าหมายสินเชื่อสีเขียวปีนี้ใหม่เป็นเติบโตมากกว่า 100,000 ล้านบาท ปัจจุบันยอดปล่อยสินเชื่อสีเขียวกว่า 80,000 ล้านบาท
ล่าสุด ธนาคารได้จับมือกับองค์การบริหาร จัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO อัปเดตสถานการณ์ตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจของไทย พร้อมแนวโน้มตลาดในอนาคต ผ่านงานวิจัย "The 2024 Thailand's Voluntary Carbon Market" โดยผลวิจัยชี้ผู้เล่นหน้าใหม่ต้องการความรู้เกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต และการพัฒนามาตรฐานคาร์บอนเครคิดให้เทียบเท่าระดับสากล ส่วนกลุ่ม SMEs ต้องการทั้งความรู้และเงินทุน โดยข้อมูลจากงานวิจัยที่ได้จะนำไปประกอบการพิจารณา เสนอแนะนโยบายส่งเสริมและผลักดันการพัฒนาตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจของประเทศไทย
ด้านภาพรวมธุรกิจในต่างประเทศปีนี้ นายพิพิธ กล่าวว่า เติบโตแบบชะลอตัวในประเทศเวียดนามและจีนตามเศรษฐกิจโลก ขณะที่ประเทศอินโดนีเซียยังเติบโตสูงซึ่งธนาคารได้เตรียมเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินเข้าไปเพิ่มเติม ขณะที่ภาพรวมสินเชื่อปีนี้มีโอกาสเติบโตได้กรอบล่างของเป้าหมายที่ 3% (เป้าหมาย 3-5%)
ส่วนกรณีของลูกค้ารายใหญ่ในธุรกิจที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ว่า ธนาคารมีวงเงินสินเชื่อที่ปล่อยให้บริษัทดังกล่าวจำนวนน้อยมาก โดยเป็นสินเชื่อที่ปล่อยให้โปรเจกต์ต่างๆ ซึ่งเท่าที่ดูมีความคืบหน้าเติบโตได้ดี จึงไม่กระทบกับธุรกิจของธนาคารอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ตามหลักการแล้วหากลูกค้าที่มีความสั่นคลอน ธนาคารมีหน้าที่ดูแลลูกค้าในการช่วยประคับประคอง ซึ่งธนาคารยังคงทำหน้าที่นี้ต่อไป
"ด้วยภาวะเศรษฐกิจอย่างที่หลายคนเห็น ธนาคารเองต้องมาดูด้วยว่าลูกค้าที่ประสบปัญหาแต่ละรายสามารถกลับมาเติบโตได้ด้วยหรือไม่ สำหรับลูกค้าพลังงานที่มีปัญหาดังกล่าว ธนาคารไม่ได้รับผลกระทบ เพราะมีสินเชื่อตามโปรเจกต์ที่ให้ไปในสัดส่วนน้อยมาก ขณะที่การตั้งสำรองหนี้ในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ออกมาเป็นหลัก"