xs
xsm
sm
md
lg

กรกฎาคม ลุ้นฟื้นจาก 3 ปัจจัยบวก โดย คุณเพชร นักกลยุทธ์การลงทุน บล.LIBERATOR

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บทความโดย คุณเพชร-วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธการลงทุน
ที่มา: บล.ลิเบอเรเตอร์

กรกฎาคม ลุ้นฟื้น ขานรับปัจจัยบวกที่จะทยอยออกมากระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาดมากยิ่งขึ้น ขณะที่ Valuation จะช่วยจำกัด Downside Risk โดยกลยุทธ์เน้นทยอยสะสมหุ้นแนวโน้มกำไรดี หุ้นเด่นสำหรับเดือนนี้เราแนะนำ BH, COCOCO, CPALL, SGC

SET Valuation น่าดึงดูด

SET Valuation น่าดึงดูด : เดือนที่ผ่านมาตลาดปรับฐานต่อเนื่อง สอดคล้องกับกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลออก แย่กว่าตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น สะท้อนว่า SET ถูกกดดันจากปัจจัยเฉพาะตัวเป็นหลักทั้งภาพเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า เปิด Downside ผสานกับโครงสร้างตลาดหุ้นไทยที่ส่วนใหญ่ยังเป็นอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม จึงไม่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมากนัก แต่อย่างไรก็ดีหากกลับมาพิจารณาในด้าน Valuation จะพบว่ากำไรตลาด (SET EPS) ปัจจุบัน ถูกปรับลดลงราว -1.8%QTD เมื่อเทียบกับช่วงปลาย 1Q24 ส่งผลให้ปัจจุบันเทรดที่ระดับ Forward PE Ratio ที่ 14.4 เท่า ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ SET PE Ratio 10 ปีย้อนหลังที่ระดับ 15.9 เท่า เทียบเคียงระดับ Mean-1.0 Standard Deviation เข้าสู่ระดับที่น่าดึงดูด และคาดช่วยจำกัด Downside risk ของตลาดจำกัดมากขึ้น

กองทุน TESG แบบใหม่ ที่น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีระยะเวลาถือครองหน่วยลงทุนเพียง 5 ปี

เริ่มกระตุ้นความเชื่อมั่น : เข้าสู่เดือนกรกฎาคม คาดปัจจัยบวกจะเริ่มทยอยออกมามากขื้น เป็นปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นต่อการลงทุน นำโดย มาตรการ Uptick Rule ซึ่งจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ก.ค. คาดจะส่งผลให้ปริมาณธุรกรรมขายชอร์ตชะลอลง ซึ่งจากในช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาก็เริ่มเห็นสัญญาณการลดลงในธุรกรรมดังกล่าว นอกจากนี้พัฒนาการในช่วงถัดไปก็จะมีความเข้มงวดในเรื่องกฎระเบียบมากยิ่งขึ้น ทั้งด้าน Program Trading, มาตรการ Dynamic Price Band เป็นต้น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีทำให้ตลาดหุ้นไทยปิดจุดอ่อนได้มากขึ้น ส่วนด้านเม็ดเงินต่อการลงทุนก็คาดจะมีเม็ดเงินใหม่ๆ เข้ามาจากการเตรียมออกกองทุน TESG แบบใหม่ ที่น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีระยะเวลาถือครองหน่วยลงทุนเพียง 5 ปี เพื่อรับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษี จาก TESG แบบเดิมที่ต้องถือถึง 8 ปีเต็ม รวมทั้งมีการปรับเพิ่มวงเงินเป็น 3 แสนบาทต่อคน จากเดิมที่ 1 แสนบาทต่อคน จึงคาดว่าจะมีเม็ดเงินก้อนใหม่เข้ามาพยุงตลาดไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปี จากรอบก่อนที่มีเพียง 6 พันล้านบาทเท่านั้น

FED มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงเดือน ก.ย. นี้

หลายปัจจัยภายนอกที่น่าติดตาม : สำหรับปัจจัยทางฝั่งสหรัฐฯ ยังคงแนะทยอยติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ เพื่อเป็นปัจจัยกำหนดการดำเนินดอกเบี้ยนโยบายของ FED โดยมุมมองของเรายังคาดว่า FED มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงเดือน ก.ย. นี้ (ตลาดให้โอกาสราว 63%) จากแนวโน้มเงินเฟ้อที่ชะลอต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังคงต้องติดตามความคืบหน้าของการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มเห็นการอภิปรายทั้งจากฝั่งไบเดน และทรัมป์ ส่วนด้านยุโรปแนะติดตามการเลือกตั้งฝรั่งเศสช่วงปลายเดือน มิ.ย.- ต้นเดือน ก.ค. อาจกระทบค่าเงินยูโรอ่อนค่าได้ ส่วนทางฝั่งจีนยังรอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากทยอยปล่อยมาตรการกระตุ้นอย่างเข้มข้น

กลยุทธ์การลงทุน

คาด SET เดือนกรกฎคม ลุ้นฟื้นตัว ในกรอบ 1,280-1,360 จุด คาดมาตรการต่างๆ จะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นต่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น ขณะที่ Valuation ของ SET ยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง ช่วยจำกัด Downside risk ส่วนกลยุทธ์การลงทุนเดือนนี้จะเริ่มมีพรีวิวและการรายงานผลประกอบการ ดังนั้นแนะสะสมหุ้นที่คาดจะรายงานงบ 2Q24 เด่น และมีสตอรี่การลงทุนน่าสนใจ โดยสำหรับ Top Picks เดือนนี้ เราแนะนำ BH, COCOCO, CPALL, SGC

4 หุ้นเด่น ประจำเดือนกรกฎาคม 2024

1)BH (290*) คาดแนวโน้มกำไร 2Q24 ขยายตัว y-y ตามการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติที่ใช้บริการรักษาโรคยากซับซ้อนที่มากขึ้น ผสานกับภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยหนุนผู้ป่วยในประเทศสูงขึ้นเช่นกัน ส่วนระยะกลาง จะมีโรงพยาบาลใหม่ที่ภูเก็ตคาดเปิดได้ในช่วงปี 2026 ซึ่งเป็น Upside ส่วนเพิ่มในระยะกลาง-ยาว

2)COCOCO (16.3) คาดกำไร 2Q24 ทำ All time high และทั้งปีคาดเติบโตก้าวกระโดด +101%y-y จากกำลังการผลิตและคำสั่งซื้อจากจีนที่มากขึ้น ขณะที่ต้นทุนมะพร้าวคาดเริ่มผ่อนคลายตั้งแต่ 3Q24 จากอุปทานมะพร้าวที่จะออกมามากยิ่งขึ้น และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่จะช่วยหนุนยอดขายเพิ่มเติมตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป

3)CPALL (72.0) คาดกำไร 2Q24 ได้แรงหนุนเชิงบวกจากภาคการบริโภคและการท่องเที่ยวที่ขยายตัว โดย SSSG ในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. ของ 7-Eleven, Makro, Lotus เป็นบวกต่อเนื่อง และคาดจะเป็นเป้าหมายของกองทุน TESG แบบใหม่ ซึ่งปัจจุบัน CPALL มี ESG Rating ในระดับ AAA

4)SGC (3.0*) : หุ้น Turnaround คาดกำไรจะกลับมาฟื้นตัวเด่นตั้งแต่ 3Q24 เป็นต้นไป จากการออกโครงการ SG Finance Plus ซึ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อมือถือที่สามารถ Lock มือถือได้หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ ทำให้ NPL จะอยู่ในระดับต่ำมาก

*ราคาเป้าหมายจาก Bloomberg Consensus

เพื่อนๆสามารถอ่านบทความการลงทุน LIB of The Month ประจำเดือน กรกฏาคม 2567 แบบฉบับเต็ม จากทีมงานนักวิเคราะห์ลิเบอเรเตอร์ท่านอื่นๆได้ที่ https://go.liberator.co.th/xlnX/LOMJULY24

และ สามารถติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในโลกลงทุนทั้งในประเทศ และทั่วโลกได้ตลอดวันผ่านช่องทาง Facebook Page : www.facebook.com/Liberator.co.th/ , X Platform : https://x.com/th_liberator

เปิดบัญชีใหม่ https://go.liberator.co.th/xlnX/LIBDL

มีพอร์ตกับลิเบอเรเตอร์ได้อะไรบ้าง..?

#เทรดคุ้มกับค่าคอมเบาๆทั้งแบบจ่ายตามจริงหุ้นไทยเริ่มต้น 0.06% และคุ้มยิ่งขึ้นกับแพคเกจแบบเหมาจ่ายรายเดือน LIBFAM Subscription Model 
#คอมมูนิตี้กิจกรรมทุกเดือน กินข้าว ดูหนัง เตะบอล เล่นบาส คลาสสัมมนา และ อีกมากมาย 
#เข้าถึงคลังความรู้ออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มของลิเบอเรเตอร์ LIB Academy ดูย้อน ดูซ้ำ เรียนได้ไม่จำกัด
กำลังโหลดความคิดเห็น