ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยความคืบหน้าของแคมเปญ “กรุงศรี มั่งมี ช้อป ใช้กรุงศรี มั่งมี ทุกร้าน” ยอดธุรกรรมเพิ่มขึ้นประมาณ 30% และมีร้านค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 15% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พร้อมจัดคาราวานลงพื้นที่พบปะร้านค้าธุรกิจ SME ในย่านการค้า ตลาดขนาดใหญ่ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้บริการแอปพลิเคชันกรุงศรี มั่งมี ช้อป (Krungsri Mung-Mee SHOP) โดยตรง
น.ส.ดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา การลงพื้นที่พบปะกับลูกค้าทั่วประเทศในแคมเปญ “กรุงศรี มั่งมี ช้อป ใช้กรุงศรี มั่งมีทุกร้าน” นี้ ทำให้เรามีโอกาสแนะนำและสร้างการรับรู้ให้ร้านค้ารายย่อยมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ยอดธุรกรรมและจำนวนลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เรายังได้รับข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้าที่เป็นประโยชน์นำมาใช้พัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อตอบโจทย์ร้านค้าได้ดียิ่งขึ้น ทำให้แอปพลิเคชันกรุงศรี มั่งมี ช้อป เข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ชีวิตพ่อค้าแม่ค้าง่ายขึ้น ตอกย้ำแนวคิดของกรุงศรี SME ที่พร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการร้านค้า SME ทุกระดับให้สามารถค้าขาย ทำธุรกิจได้อย่างคล่องตัว
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้กรุงศรี มั่งมี ช้อป สามารถใช้บริการทั้งการขายหน้าร้าน การขายผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียลคอมเมิร์ซ โดยการสร้าง QR รับชำระเงินและส่งเรียกเก็บเงินทาง Facebook Messenger, Instagram และ LINE ได้ส่วนผู้ซื้อสินค้าและบริการจะจ่ายด้วยช่องทางการเงินแบบใดก็ได้ ทั้งสแกน QR จากโมบาย แบงกิ้ง แอป หรือจะใช้แอปพลิเคชันบัตรเครดิต Visa / Master Card นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวชาวจีนก็สามารถจ่ายได้ด้วยกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) Alipay, WeChat Pay, QR Code และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น กัมพูชา มาเลเซีย ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฮ่องกง สามารถสแกนจ่ายได้ Krungsri Mung-Mee SHOP จึงไม่ใช่แค่เป็นเครื่องมือดิจิทัลที่ตอบโจทย์ลูกค้าคนไทย แต่ยังเปิดโอกาสทางการค้าสำหรับร้านค้าที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติพร้อมอำนวยความสะดวกด้านบัญชี โดยจะสรุปยอดขาย แยกยอดขายให้เห็นชัดเจน และตรวจสอบสลิปได้ในแอปเดียว
"หนึ่งในฟีเจอร์ของแอปพลิเคชัน กรุงศรี มั่งมี ช้อป ที่ได้รับความสนใจจากร้านค้า คือ ความสามารถในการรองรับการจ่ายเงินของนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่าน WeChat และ Alipay ซึ่งทำให้เห็นถึงโอกาสในการขายสินค้าของตนเองได้มากขึ้น โดยธนาคารเริ่มเห็นปริมาณธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่าน WeChat และ Alipay เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 3 เท่า สะท้อนถึงการพัฒนาฟีเจอร์และระบบรองรับการชำระเงินที่ดีมีประสิทธิภาพ ช่วยปิดการขายได้มากขึ้น"