xs
xsm
sm
md
lg

ESTAR เดินเกมลุยฝ่า ‘แอลทีวี’ ขยายพอร์ตบ้าน-ทาวน์โฮมพรีเมียมหนุนรายได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อีสเทอร์น สตาร์ฯ” เผยผลงานไตรมาสแรกปี 67 เติบโตได้สวยงาม ดันยอดขายทะลุกว่า 510 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% พร้อมปรับกลยุทธ์ขยายพอร์ตบ้าน-ทาวน์โฮมพรีเมียม ราคากลางถึงบน ลดแรงกระทบเรื่องรีเจตก์เรต และ LTV เตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหม่ ระยอง-กรุงเทพฯ มูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท มั่นใจรับรู้รายได้ปีนี้กว่า 1,700 ล้านบาท

นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยถึงความสำเร็จของบริษัทในปี 2566 ที่ผ่านมาว่า ยังเป็นปีที่ ESTAR เติบโตอย่างสดใส โดยบริษัทได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และบ้านระดับลักชัวรี เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าในหลากหลายเซ็กเมนต์ บนทำเลศักยภาพสูงทั้งในโซนกรุงเทพฯ และจังหวัดระยองที่เป็นดาวเด่น เนื่องจากมีนิคมอุตสาหกรรม สนามบิน นานาชาติอู่ตะเภา และประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น อีกทั้งยังมีเส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย

โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม สามารถทำยอดขายปี 2566 ได้ถึง 1,580 ล้านบาท สูงทะลุเป้าที่วางไว้ ซึ่งเติบโตกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อีกทั้งในไตรมาส 1/2567 บริษัทยังสามารถดันยอดขายนิวไฮ แตะถึง 510 ล้านบาท ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้น (QoQ) ถึง 75% แบ่งเป็นโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่สร้างยอดขายได้ดีถึง 401 ล้านบาท เติบโตถึง 85% และโครงการที่ จ.ระยอง อีก 109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% ขณะที่ยอดโอนไตรมาสแรกทำได้ 300 ล้านบาท โตเพิ่ม 21% (QoQ) โดยแบ่งสัดส่วนยอดขายโครงการในกรุงเทพฯ ทั้งแนวสูงและแนวราบ มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ซึ่งมียอดโอนที่ 165 ล้านบาท เติบโตขึ้น 26% และสำหรับยอดขายโครงการแนวราบใน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จะอยู่ที่กว่า 109 ล้านบาท มียอดโอนที่มูลค่า 135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%


สำหรับแผนพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้ ESTAR ยังคงเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง โดยตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ ในช่วง Q1-Q3 เป็นต้นไป มูลค่ารวมกว่า 1,600 ล้านบาท แบ่งออกเป็นทำเลโซน บ้านฉาง จังหวัดระยอง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว VELANA HYDE อู่ตะเภา-บ้านฉาง ระยอง มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5-9 ล้านบาท และโครงการบ้านเดี่ยว GRAND VELANA POOL VILLA บ้านฉาง ระยอง จำนวน 6 หลัง มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท และในพื้นที่กรุงเทพ 1 โครงการ โครงการ ESTON ลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 3.29-5 ล้านบาทขึ้นไป


พร้อมผลักดันโครงการปัจจุบันที่มีอยู่ในมือรวม 11 โครงการ มีมูลค่าการขายได้ประมาณ 5,600 ล้านบาท แยกเป็นโครงการที่จะสร้างยอดขายในกรุงเทพฯ 6 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท อยู่ในกลุ่มราคาตั้งแต่ 3-5 ล้านบาท และ 11-15 ล้านบาท เช่น โครงการ ESTARA โครงการ ESTON ที่เตรียมเปิดตัวในไตรมาส 3 ปีนี้ และโครงการคอนโดฯ ราคา 3-5 ล้านบาท แบรนด์ QUINTARA (ควินทารา) ที่มีอยู่ 3 โครงการ ในทำเล รัชดาฯ 12 สุขุมวิท 39 และโพธิ์นิมิตร ส่วนอีก 30% จะอยู่ที่บ้านฉาง จ.ระยอง จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 1,600 ล้านบาท ในกลุ่มเซกเมนต์ 2.5-4.5 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ TERRA และ Breeze (มีสต๊อก) และในกลุ่มพรีเมียมราคา 5-15 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ VELANA HYDE และ GRAND VELANA POOL VILLA เป็นต้น

"หลายคนมองว่าตลาดในเซกเมนต์ 3-5 ล้านบาท มีปัญหา แต่ของ ESTAR ได้มีการทำ Pre-approve กับ 2 โครงการที่จะเตรียมโอนไตรมาส 3 และ 4 เรียกว่า ไม่มีปัญหาเยอะ เพราะคอนโดฯ QUINTARA สุขุมวิท 39 และ รัชดา ในกลุ่มราคา 3 ล้านบาท อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ เนื่องจากแวดล้อมด้วยโรงแรม ท่องเที่ยวกลับมาเติบโตมากและเป็นเครื่องจักรเดียวที่เหลืออยู่ ตัวเลข 5 เดือนแรกมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 11 ล้านคน และคาดหวังรายได้ 3.3 ล้านล้านบาท ทำให้ธุรกิจโรงแรมใน 2 โลเกชันขยายตัวมาก มีการรับพนักงานใหม่เข้ามา มีการมองหาที่พัก อยู่ใกล้โรงพยาบาลขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลพระราม 9 มีชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก ทำให้แพทย์ พยาบาลต้องมีที่พัก มีบุคลากรทางการแพทย์มาซื้อคอนโดฯ ของเรา และอยู่ในโลเกชันที่สะดวกเดินทางไปโรงเรียนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เป็นต้น" นายไพโรจน์ กล่าว


ในส่วนของโครงการบ้านเดี่ยวที่บ้านฉาง จ.ระยอง นั้น ทางบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ในการบริหารตัวเลขการปฏิเสธสินเชื่อ โดยได้ปรับไปเจาะตลาดในเซกเมนต์กลุ่มพรีเมียมมากขึ้น ส่งผลให้ตัวเลขรีเจกต์เรตลดจาก 30% เหลือประมาณ 20-25% และลดปัญหาเรื่อง LTV ลงไปได้ เนื่องจากในโซนนี้มีพนักงานจากบริษัทขนาดใหญ่ เช่น SCG ปตท.และบุคลากรทางการแพทย์จากทหารเรือเข้ามาอยู่มากขึ้น เป็นสัญญาณาสะท้อนว่า บ้านฉางจะมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น

นายไพโรจน์ กล่าวถึงเป้าหมายพรีเซลล์ในปีนี้ว่า ตัวเลขอยู่ที่ 2,048 ล้านบาท เติบโต 30% และเป้าหมายรับรู้รายได้อยู่ที่กว่า 1,732 ล้านบาท เติบโต 47% และมั่นใจตัวเลขจะสูงขึ้น เนื่องจากโครงการที่มีอยู่ยังมีจำนวนไม่มาก ซึ่งขณะนี้บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้แล้ว สำหรับโครงการประเภทคอนโดฯ ทำเลใจกลางกรุงเทพฯ 2 โครงการ มีแบ็กล็อกกว่า 1,000 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตัดรีเจกต์เรตออกไป 40% แล้ว




กำลังโหลดความคิดเห็น