เจ้าหน้าที่ IRB Datuk Abu Tariq Jamaluddin เตือนนักลงทุนคริปโตให้ดำเนินการยื่นแบบแสดงเอกสารรับรองการลงทุน ตามประกาศภาษีตามกฎระเบียบสรรพากรระบุ ซึ่งอาจมีความผิดหากเลยระยะเวลาที่กำหนด
คณะกรรมการสรรพากรภายในประเทศ (IRB) ของมาเลเซียดำเนินการปฏิบัติการพิเศษที่เรียกว่า "Ops Token" เพื่อลดการรั่วไหลของรายได้ภาษีจากการซื้อขายคริปโตของนักลงทุน
The Malaysian Reserve สื่อท้องถิ่นของมาเลเซียรายงานว่าเจ้าหน้าที่ 38 คนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซียและ CyberSecurity Malaysia (CSM) บุกค้นสถานที่ต่างๆ 10 แห่งในพื้นที่กลางหุบเขา โดยการดำเนินการดังกล่าว มุ่งเป้าไปที่บริษัทที่ไม่ได้รายงานกิจกรรมการซื้อขายคริปโตของตนอย่างถูกต้องต่อหน่วยงานรัฐบาลกลาง ซึ่ง โครงการริเริ่มนี้ สอดคล้องกับความต้องการของรัฐบาลท้องถิ่น ในการลดช่องโหว่ของการเลี่ยงภาษี ตลอดจนการฟอกเงินผ่านคริปโต ซึ่งส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ทางภาษีและปรับปรุงการบริหารภาษีของประเทศ
ตำรวจมาเลเซียตรวจสอบหลักฐานการหลีกเลี่ยงภาษี
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด และนิติบุคคลหลายแห่ง เพื่อการซื้อขายคริปโต โดยหน่วยงานรัฐบาลกลาง เชื่อว่าหน่วยงานเหล่านี้หลีกเลี่ยงการยื่นแบบแสดงผลบัญชีประกอบการธุรกิจเพื่อประมวลภาษีภาษีของตน
คณะกรรมการ IRBกล่าวว่า “จากการดำเนินการดังกล่าว พบข้อมูลการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลที่จัดเก็บไว้ในอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ และซึ่งจากการตรวจสอบมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการซื้อขายได้สำเร็จ ทำให้เกิดการรั่วไหลของรายได้จากภาษีอย่างมีนัยสำคัญ”
นอกจากนี้ IRB ยังกล่าวอีกว่าข้อมูลที่ได้รับระหว่างการดำเนินการจะได้รับการวิเคราะห์เพื่อกำหนดมูลค่าของสินทรัพย์คริปโตที่ซื้อขายและผลกำไรที่เกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลกลาง สามารถระบุมูลค่าของการรั่วไหลของภาษีที่ไม่ได้แจ้งต่อ IRB อย่างถูกต้อง
หัวหน้า IRB เตือนนักลงทุนคริปโตให้สำแดงรายได้เพื่อรับรองภาษี
Datuk Abu Tariq Jamaluddin ประธานของ IRB อธิบายว่าบุคคลที่มีส่วนร่วมในการซื้อขายคริปโต ในประเทศจะต้องปฏิบัติตามกฎภาษีเงินได้ของมาเลเซีย อย่างเป็นทางการโดยได้เตือนนักลงทุนคริปโตให้ประกาศภาษีคริปโตของตนอย่างถูกต้อง ไปยังสำนักงาน IRB ใกล้เคียงโดยเร็วที่สุดก่อนที่ IRB จะดำเนินการปฏิบัติตามข้อกำหนด
IRB คาดว่าการดำเนินงานจะเพิ่มรายได้จากภาษีของมาเลเซีย โดยการเพิ่มประสิทธิภาพด้านภาษีและลดการรั่วไหล หน่วยงานยังเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาการจัดเก็บรายได้ของประเทศอย่างยั่งยืน
กฎระเบียบคริปโตในมาเลเซีย
ทั้งนี้ในมาเลเซียกำหนดให้สกุลเงินดิจิทัลนั้นถูกกฎหมายและควบคุมโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ซึ่งเป็นหน่วยงานตามกฎหมายที่รับผิดชอบในการควบคุมตลาดทุนในประเทศ โดยโทเค็นถือเป็นหลักทรัพย์ในประเทศโดยอยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์
ขณะที่ธนาคารกลางของประเทศ ไม่ถือว่าสกุลเงินดิจิทัลหรือโทเค็นเป็นเครื่องมือในการชำระเงินหรือการชำระเงินตามกฎหมาย นอกจากนี้ ธุรกิจที่เน้นการลงทุนคริปโต หรือเชื่อมโยงคริปโตยังอยู่ภายใต้กฎหมายภาษีเงินได้ของประเทศ