ผู้บริหารบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA พร้อมผู้บริหารบริษัทลูก บริษัท เน็กซ์พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เป็นบริษัทจดทะเบียนรายที่ 2 แล้วที่ประกาศกร้าวตามล่าค้นหาเบื้องหลังการถล่มหุ้น EA และ NEX จนทรุดหนัก
ผู้ต้องสงสัยเบื้องต้นที่ถูกเพ่งเล็งคือ โปรแกรมการซื้อขายด้วยปัญหาประดิษฐ์ (AI) หรือ ROBOT TRADING การยืมหุ้นมาขายหรือ SHORT SELL และการขายโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ หรือ NAKED SHORT
ก่อนหน้านี้ นายชูเกียรติ์ รุจนพรพจี อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เคยลุกขึ้นมาร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ขอให้ตรวจสอบรายการซื้อขายหุ้น SABUY เพราะเชื่อว่ามีการทำรายการ SHORT SELL ที่ไม่ถูกต้อง และตรวจสอบการทำ NAKED SHORT โดยส่งคำสั่งซื้อขายผ่านระบบ ROBOT ซึ่งทำให้ราคาหุ้นตกต่ำอย่างต่อเนื่อง
นายชูเกียรติ์ ชี้เป้าชัดว่า ROBOT เป็นตัวการสำคัญที่ถล่มหุ้น SABUY จนย่อยยับ จนวันนี้หุ้นตกอยู่ในสภาพตายคากระดาน
แต่การร้องเรียนของเจ้าของหุ้น SABUY เงียบหายไปตามสายลม ไม่มีผลการตรวจสอบจากหน่วยงานใดว่า ROBOT เป็นมหาวายร้ายในตลาดหุ้นหรือไม่ รายการ NAKED SHORT ยังเกิดขึ้นจริงหรือไม่
ผู้บริหารกลุ่ม EA กำลังเป็นเจ้าทุกข์รายที่สอง ที่ตามล่าหาความจริงเกี่ยวกัย ROBOT ซึ่งถูกตั้งเป็นมหาวายร้ายถล่มหุ้นบริษัทจดทะเบียนนับสิบแห่ง จนฟุบแน่นิ่งหุ้น EA และ NEX อาจเป็นเหยื่อรายล่าสุดของ ROBOT
ราคาหุ้น EA และ NEX ดิ่งลงมาต่อเนื่อง แม้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนทั้งสองจะออกมาชี้ แจงข่าวหลายครั้ง ยืนยันแนวโน้มธุรกิจยังสดใส ผลประกอบการผ่านจุดเลวร้ายสุดมาแล้วในไตรมาสแรก และจะเริ่มกระเตื้องขึ้นในไตรมาสต่อๆ ไป
แต่ความพยายามเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนของผู้บิหารกลุ่ม EA ไร้ผล เพราะราคาหุ้นยังถูกถล่มไม่เลิก และไม่มีสัญญาณฟื้น
ผู้บริหารกลุ่ม EA ทนนั่งดูหุ้นตัวเองถูกทุบต่อไปไม่ไหว เพราะถ้าไม่ทำอะไร ราคาหุ้นจะดิ่งลงจนถึงจุดหายนะ ผู้ถือหุ้นรายย่อยบาดเจ็บล้มตาย และข่าวลือต่างๆ จะตามมาทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุนจนไม่เหลือ จึงต้องออกโรงมาเรียกร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ก.ล.ต.ตรวจสอบการซื้อขาย
หาตัววายร้ายที่อยู่เบื้องหลังสร้างความปั่นป่วนให้หุ้น EA และ NEX โดยพุ่งเป้าไปที่ ROBOT SHORT SELL และ NAKED SHORT
ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า ความพยายามควานหาตัววายร้ายที่อยู่เบื้องหลัง การทุบหุ้นของผู้บริหารกลุ่ม EA จะคว้าน้ำเหลวเหมือนผู้บริหาร SABUY หรือไม่
และหุ้นกลุ่ม EA จะจบอย่างไร จะตายคากระดานเหมือนหุ้น SABUY หรือไม่ โดยไม่สามารถจับมือใครดมได้
ปัญหา ROBOT SHORT SHELL และ NAKED SHORT ถูกพูดถึงมานานมากแล้ว โดยถูกกล่าวหาเป็น 1 ในชนวนเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยตกต่ำ สวนทางกับตลาดหุ้นแทบทั้งโลกที่กำลังดีวันดีคืน และหลายตลาดสร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์
แต่ตลาดหุ้นไทยกลับสร้างจุดต่ำสุดใหม่เป็นรายวัน ปักหัวลงเหว และไม่มีแม้แต่สัญญาณการฟื้นตัว
นักลงทุนในตลาดหุ้นเคยลุกฮือขึ้นเรียกร้องกดดันให้ตลาดหลักทรัพย์ ประกาศยกเลิกการซื้อขายด้วย ROBOT ห้าม SHORT SELL ซึ่งจะตัดตอนการทำ NAKED SHORT โดยปริยาย
แต่ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ยืนกรานไม่ระงับการซื้อขาย ROBOT เพราะจะกระทบต่อนักลงทุนต่างชาติ มูลค่าการซื้อขายหุ้นจะลดฮวบ และตลาดหุ้นไทยจะถูกลดความน่าสนใจในสายตาต่างชาติ
โดยย้ำมาตลอดว่า ไม่มีรายการ NAKED SHORT หรือการขายโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ แต่นักลงทุนทั้งตลาดไม่มีใครเชื่อ
ทุกคนเชื่อว่า นักลงทุนต่างชาติ หรือฝรั่งหัวดำยังเล่นนอกกติกา จับเสือมือเปล่า ขายหุ้นลม ถล่มหุ้นรายตัวจนล่มจม และเป็นตัวการสำคัญที่ทุบตลาดหุ้นไทยจนโงหัวไม่ขึ้น
ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ต้องลงมานั่งจับเข่าคุยกัน ทบทวนและชั่งน้ำหนักผลดีผลเสียของ ROBOT และ SHORT SELL อีกสักครั้ง
ถ้า ROBOT และ SHORT SELL ไม่ใช่มหาวายร้ายในตลาดหุ้น แต่เป็นธุรกรรมที่เป็นประโยชน์ และมีความจำเป็นต้องดำรงอยู่จริง
ถ้ามั่นใจว่า NAKED SHORT สูญสลายไปแล้วจากตลาดหุ้นไทยจริง
ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์จะต้องแถลงชี้แจงจนนักลงทุนสิ้นสงสัย และมีความมั่นใจจริงๆ ว่า ROBOT และ SHORT SELL ไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายที่บ่อนทำลายตลาดหุ้นไทย
เพราะจนถึงวันนี้ไม่มีใครเชื่อว่า ROBOT SHORT SELL และ NAKED SHORT จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพังทลายของตลาดหุ้น
ผู้บริหาร EA เป็นผู้เสียหายรายล่าสุดที่ออกมาประกาศก้องว่า ROBOT เป็นผู้ต้องสงสัยในฐานะมหาวายร้ายทุบหุ้น