ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่ง "สบาย เทคโนโลยี" แจงเหตุหนี้ทะลุสินทรัพย์ อีกทั้งขาดทุนหนัก และเสียอำนาจคุม " สบาย คอนเน็กซ์ เทค" ตั้งด้อยค่าเงินกู้ 1,500 ล้านบาท ขีดเส้นต้องแจ้งภายใน 13 มิ.ย.นี้
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินไตรมาส 1/67 เนื่องจากผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตถึงความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่อง
โดย SABUY ขาดทุน 1,961 ล้านบาท มีหนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน และขาดทุนสะสม 3,084 ล้านบาท และมีข้อสังเกตกรณีมีข้อบ่งชี้ว่ากลุ่ม SABUY สูญเสียอำนาจควบคุมในบริษัท สบาย คอนเน็กซ์ เทค จำกัด (มหาชน) หรือ SBNEXT ส่งผลให้ SABUY ได้ตั้งด้อยค่าความนิยมและสินทรัพย์ไม่มีตัวตนอื่น รวมทั้งเงินให้กู้ยืมแก่ SBNEXT ทั้งจำนวนรวม 1,464 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทมีผลขาดทุนจากการขายเงินลงทุนใน บจก.ดับเบิ้ลเซเว่น (DOU7) 996 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ให้ SBNEXT ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินไตรมาส 1/67 ซึ่งผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงิน เนื่องจากมีความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญของการดำเนินงานต่อเนื่อง โดย SBNEXT ขาดทุนสุทธิ 93 ล้านบาท เพราะมีหนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน และมีขาดทุนสะสม บริษัทผิดเงื่อนไขสัญญาเงินกู้ยืมทำให้สถาบันการเงินและผู้ให้กู้มีสิทธิเรียกชำระคืนทันที รวมทั้งมีข้อบ่งชี้ว่ากลุ่มบริษัทอาจไม่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจาก SABUY ผู้ถือหุ้นใหญ่ 24.92% สินทรัพย์ที่ไม่มีภาระผูกพันมีจำกัดซึ่งอาจมีผลต่อ
ทั้งนี้ ตลท.ขอให้ทั้ง 2 บริษัทชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของ ตลท.ภายในวันที่ 13 มิถุนายน 2567 สำหรับความเห็นของคณะกรรมการบริษัทภายในวันที่ 20 มิถุนายน 2567 โดยขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินของ SBNEXT และติดตามคำชี้แจงของบริษัท
สำหรับประเด็นที่ ตลท. สั่งให้ SABUY ชี้แจงคือ
1.หลักเกณฑ์ในการพิจารณาตั้งด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อย บริษัทร่วม
2.รายละเอียดข้อบ่งชี้ว่ากลุ่มบริษัทได้สูญเสียอำนาจการควบคุมใน SBNEXT เนื่องจากการละเมิดสิทธิที่เกิดจากข้อตกลงตามสัญญาตามที่ผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกต รวมถึงรายละเอียดของเงินให้กู้ยืมกับ SBNEXT และแนวทางติดตามหนี้
3.ความเห็นของคณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบเกี่ยวกับความเหมาะสมของการตั้งด้อยค่าเงินลงทุน อันเป็นผลจากแผนการปรับโครงสร้างทางธุรกิจของกลุ่มบริษัท
4.ความคืบหน้าในการแก้ไขการถือหุ้นไขว้ของบริษัทกับ SBFFM ตามที่บริษัทเคยชี้แจงเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ว่าจะแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันนับจากวันที่รายการแลกหุ้น DOU7 กับ SABUYเสร็จสมบูรณ์
ส่วนประเด็นที่ ตลท.ให้ SBNEXT ชี้แจงประกอบด้วย
1.การแก้ปัญหาสภาพคล่อง แนวทางการจัดหาแหล่งเงินเพื่อชำระหนี้และใช้ในการดำเนินงาน
2.รายละเอียดการกู้ยืมเงินและการนำสินทรัพย์ของบริษัทไปค้ำประกันให้กลุ่ม SABUY (ตาม note 8)การลงทุนในหุ้น สบายฯ และการปฏิบัติตามเกณฑ์การทำรายการกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
3.นโยบายการพิจารณาลงทุนและวัตถุประสงค์การลงทุนในตราสารทุน การบริหารความเสี่ยงและติดตามผลตอบแทนจากการลงทุนสัดส่วน แหล่งเงินทุน ความเห็นของคณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบ
4.นโยบายการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และสาเหตุการเพิ่มขึ้นของรายการดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งแนวทางการติดตามหนี้
5.รายละเอียดของหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากคดีความโดยมีทุนทรัพย์ฟ้องร้องมากกว่า 5% ของส่วนของผู้ถือหุ้น
6.ความคืบหน้าของการดำเนินการให้เป็นไปตามเกณฑ์ดำรงสถานะเรื่องการไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เนื่องจากบริษัททำธุรกิจเดียวกับบริษัทในกลุ่มของผู้ถือหุ้นใหญ่ ตามข่าวของบริษัทเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566