มากุโระ กรุ๊ป ปิดเทรดวันแรกที่ 19.40 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 22.01% หลังเปิดเทรดช่วงเช้าด้วยราคา 23 บาท พุ่ง หรือ 44.65% จากราคาไอพีโอ 15.90 บาท สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีต่อแบรนด์ ตั้งเป้ารายได้ปี 67 โต 30% เตรียมนำเงินใช้ขยายงานตามแผน
หุ้น MAGURO หรือบริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อขายวันแรก โดยเปิดที่ราคา 23.00 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 7.10 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 44.65% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 15.90 บาท ระหว่างวันราคาปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 23.70 บาท ต่ำสุดที่ 18.50 บาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 19.40 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 22.01% มูลค่าซื้อขาย 2,809.35 ล้านบาท
โดย MAGURO ได้ขาย IPO ที่หุ้นละ 15.90 บาท จำนวนไม่เกิน 34,060,200 หุ้น คิดเป็น 27.03% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัท จำนวนไม่เกิน 21,460,200 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 17.03% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย HOLISTIC IMPACT จำนวนไม่เกิน 12,600,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 10.00% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO
ทั้งนี้ MAGURO ประกอบธุรกิจร้านอาหาร จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มระดับ Premium - Mass ภายใต้เครื่องหมายการค้า “มากุโระ (MAGURO)” “ซัมติง ทูเก็ทเตอร์ (SSAMTHING TOGETHER)” และ “ฮิโตริ ชาบู (HITORI SHABU)” รวมถึงให้บริการจัดส่งอาหาร และรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่
ขณะผลการดำเนินงานปี 2564-2566 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 387.61 ล้านบาท 665.85 ล้านบาท และ 1,045.81 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 9.57 ล้านบาท 31.36 ล้านบาท และ 72.48 ล้านบาท ตามลำดับ โดยไตรมาสแรกปีนี้มีรายได้รวมอยู่ที่ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 20.13 ล้านบาท
นายเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง MAGURO เผยว่า พอใจกับราคาเปิดซื้อขายวันแรก โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อแบรนด์ของบริษัทที่เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น-เกาหลี และได้รับการยอมรับจากลูกค้ามายาวนานกว่า 9 ปี ประกอบกับบริษัทมีแผนการเติบโตที่ชัดเจน โดยในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 30% จากปี และบริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ในปี 2567 ไม่น้อยกว่า 11 สาขา เพื่อสร้างการเติบโตอย่างสูงและต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปเปิดแบรนด์ใหม่ และขยายสาขาเพิ่มดังกล่าว รวมทั้งปรับปรุงสาขาเดิม ครัวกลาง และระบบ IT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และรองรับการขยายตัวของจำนวนสาขาของบริษัทในอนาคต อีกทั้งเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทขยายกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ