xs
xsm
sm
md
lg

ยก "ถนนหอการค้าไทย" CBD ใหม่โซนตะวันตก 8 บิ๊กเนมผุดโปรเจกต์มูลค่ากว่า 50,000 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



!!!..ต้องมีวิสัยทัศน์และมองการไกลมากแค่ไหน ต้องใช้กำลังภายในมากเท่าไหร่ จึงสามารถผลักดันถนน "หอการค้าไทย" ให้กลายเป็นทำเลทองที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์บิ๊กเนมของเมืองไทยต่างให้ความสนใจและเชื่อมั่นในศักยภาพ จนยอมทุ่มงบเม็ดเงินซื้อที่ดินรอพัฒนาโครงการที่มีการปรับตัวสูงขึ้นกว่า 2-3 เท่าตัวเพียงช่วยระยะเวลาแค่ 10 ปี เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรองรับดีมานด์ในทำเลถนนหอการค้าไทยที่ขยายตัวแบบก้าวกระโดดในเวลานี้

สำหรับทำเลถนนหอการค้าไทยนั้นกลายเป็นทำเลศักยภาพที่น่าจับตามากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่ดินเลียบถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่ง อ.เมืองนนทบุรี จากสะพานพระนั่งเกล้า มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจนแทบเริ่มเต็มพื้นที่ ทำให้ทำเลฝั่งตะวันตกของสะพานพระนั่งเกล้า กลายเป็นทำเลศักยภาพ โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลลงทุนพัฒนาโครงการถไฟฟ้าสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ และต่อมายังอนุมัติการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู


ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพของทำเลทำให้ดึงดูดให้ศูนย์การค้าชั้นนำต่างๆ เข้ามาลงทุนเปิดให้บริการโดยอัตโนมัติ เช่น อินเด็กซ์ลีฟวิ่งมอล โรบิลสันโฮมโปร เดอะคริสตัล ชีครีพลับบริค ทำให้ทำเลในโซนถนนราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ ถนน 345 และถนนหอการค้าไทยกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญในโซนตะวันตก ขณะที่ในปี 2567 นี้จะมีการขยายถนนชัยพฤกษ์ เป็น 10 ช่องการจราจร และปลายปีจะมีการเปิดใช้ถนนมอเตอร์เวย์ เส้นบางใหญ่-กาญจนบุรี ซึ่งจะทำให้การเดินทางของประชาชนในจังหวัดฝั่งตะวันตก เช่น กาญจนบุรี นครปฐม เพชรบุรี และสุพรรณบุรี เข้าสู่ กทม.ได้รวดเร็วขึ้น

“หัวใจหลักของความสำเร็จถนนหอการค้าไทย คือ ทำเลและศักยภาพของทำเล ทำให้พันธมิตรอสังหาฯ ทั้ง 7 บริษัทในปัจจุบันสนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง” นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าว

สำหรับทำเลเลียบถนนราชพฤกษ์ ถนนชัยพฤกษ์ และถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง หรือทางหลวงชนบทหมายเลข 345 เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมามีผู้ประกอบการอสังหาฯ น้อยรายที่เข้ามาพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร แต่หลังมีการตัดถนนชัยพฤกษ์ ทำให้เกิดทำเลการอยู่อาศัยแห่งใหม่ในจังหวัดนนทบุรีขึ้น ซึ่งแม้ว่าในช่วงนั้นพื้นที่ดังกล่าวจะยังมีข้อจำกัดในการพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์ หรืออาคารพาณิชย์ เนื่องจากติดปัญหาที่ผังเมืองรวมจังหวัดนนทบุรีกำหนดให้พื้นที่โซนเลียบถนนชัยพฤกษ์เป็นพื้นที่สีเขียว

ต่อมาในปี 2560 “พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” ได้ลงทุนก่อสร้างถนนหอการค้าไทย ซึ่งเป็นถนนที่ตัดผ่านดินที่ของแปลงใหญ่ของพร็อเพอร์ตี้เพอร์เฟคฯ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 600 ไร่ เพื่อเชื่อมระหว่างถนนชัยพฤกษ์ และถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 345 โดยถนนหอการค้าไทยมีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้ที่ดินในการตัดถนน 80 ไร่ ราคาประเมินเบื้องต้น 12 ล้านบาทต่อไร่ ทำให้เฉพาะราคาที่ดินที่ใช้ในการตัดถนนเบื้องต้นมีมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท ขณะที่เม็ดเงินที่ใช้ในก่อสร้างถนนกว่า 400 ล้านบาท


นายวงศกรณ์ กล่าวว่า สำหรับ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีที่ดินบนถนหอการค้าไทย 600 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 20,500 ล้านบาท พัฒนาไปแล้ว 530 ไร่ จำนวน 13 โครงการ มีโครงการที่ยังเปิดขายอยู่ 6 โครงการ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้ครบทุกรูปแบบ ทั้งบ้านเดี่ยว 4 โครงการ ได้แก่ เพอร์เฟค เพลส เพอร์เฟค พาร์ค 2 โครงการ และเลค เลเจ้นด์ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับ ฮ่องกงแลนด์ มีทาวน์โฮม 1 โครงการ ได้แก่ เดอะ เมทโทร และอาคารพาณิชย์พร้อมการพักอาศัย 1 โครงการ ได้แก่ มาร์เก็ต อเวนิว ในส่วนที่ดินอีก 90 ไร่ มีแผนพัฒนาเป็นโครงการเชิงพาณิชย์ ศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ ทั้งอาคารพาณิชย์ ธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของคนในชุมชนบนถนนสายนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

** แสนสิรินำร่องปิดการขาย 2 โครงการ

นายอาณัติ กิติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริเป็นหนึ่งในรายแรกๆ ที่เข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการจัดสรรบนถนนหอการค้าไทย โดยแสนสิริพัฒนาโครงการไปแล้ว 2 โครงการ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 102 ไร่ คือ โครงการสราญสิริ ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ และ Else ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ โดยทั้ง 2 โครงการสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว

“แสนสิริมองเห็นถึงศักยภาพถนนหอการค้าไทย และทำเลย่านชัยพฤกษ์ที่มีการพัฒนาและศักยภาพสูงมาก โดยตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จนกลายเป็นทำเลทองที่มีศักยภาพเชื่อมต่อ 3 จังหวัด กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี จึงเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย ทำให้ดีมานด์ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทำเลถนนหอการค้าไทยแวดล้อมด้วยโครงการที่อยู่อาศัยครบทุกระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น นับเป็นหนึ่งในทำเลสำคัญในการพัฒนาโครงการของบริษัท”

ด้านนายสรศักดิ์ เฉลิมไพโรจน์ Head of SBU-PS2 กลุ่มบ้านเดี่ยว บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้เข้ามาพัฒนาโครงการบนถนนหอการค้าไทยตั้งแต่ช่วงแรกของการเปิดใช้ถนนหอการค้าไทย โดยได้เปิดตัวโครงการไปแล้ว 2 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านภัสสร บ้านเดี่ยวราคาเริ่มต้น 5-8 ล้านบาท ซึ่งปิดการขายไปแล้ว และโครงการเดอะ ปาล์ม บ้านเดี่ยวราคา 8-15 ล้านบาท คาดว่าจะปิดโครงการในไตรมาส 3 ปีนี้ นอกจากนี้ พฤกษาฯ ยังมีที่ดินรอการพัฒนาบนถนนหอการค้าไทยอีก 33 ไร่ ซึ่งอยู่ในแผนการพัฒนาโครงการบ้านแนวราบ


ด้าน นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์และการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP กล่าวว่า ถนนหอการค้าไทยถือเป็นถนนเศรษฐกิจสำคัญ และจะกลายเป็น CBD ของพื้นที่ กทม.ฝั่งตะวันตก และเป็นอีกทำเลที่ส่งเสริมให้ที่ดินในทำเลใกล้เคียงคึกคักตามไปด้วย โดยจุดเด่นของถนนหอการค้าไทย คือ สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และโรงเรียนนานาชาติ SISB ซึ่งเป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดดีมานด์ใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งทำเลทองของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกที่น่าสนใจมาก

โดยล่าสุด เอพีได้ซื้อที่ดินรอการพัฒนาโครงการใหม่เข้ามาเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ ภายใต้ชื่อ Grande Pleno แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ โครงการบ้านแฝดพรีเมียม 2 ชั้น จำนวน 198 หลัง ราคาเริ่มต้น 6.09 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “เพิ่มพื้นที่ขยายความสุขที่มากกว่า” มีมูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในวันระหว่างวันที่ 15-16 มิถุนายนนี้


พราวฯ จ่อผุดบ้าน 100 ล้าน

นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พราวฯ นับว่าเป็นบรัทอสังหาฯ รายล่าสุดที่เข้ามาพัฒนาที่อยู่อาศัยบนถนนหอการค้าไทยแห่งนี้ โดยได้ซื้อที่ดินจากเจ้าของที่เดิม ซึ่งติดกับถนน 345 และได้ทำการเชื่อมต่อถนนกับหอการค้าไทย ทำให้ที่ดินของพราวฯ มีจุดเด่นที่สามารถเดินทางเข้าออกได้ 2 ทาง โดยบริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการในปี 2568 ซึ่งตามแผนจะพัฒนาโครงการระดับลักชัวรี อัลตราลักชัวรี ระดับราคา 100 ล้านบาท โดยพราวฯ จะนำจุดแข็งด้านบริการ การออกแบบ และการสร้างสรรค์รูปแบบชีวิตที่สอดคล้องกับบริบทของสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมาใช้พัฒนาโครงการใหม่

เซ็นทรัลฯ ปักหมุดบ้านลักชัวรี

นายสงกรานต์ แสงอร่ามรุ่งโรจน์ Head of Residence Operation 5-8 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN Residence กล่าวว่า CPN มองเห็นศักยภาพถนนหอการค้าไทย ซึ่งเป็นทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวก ใกล้ศูนย์การค้าชั้นนำ ใกล้โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์นนทบุรี หรือ SISB วิทยาเขตนนทบุรี โดย CPN มีแลนด์แบงก์ 75 ไร่ บนทำเลถนนหอการค้าไทย และมีแผนจะพัฒนาบ้านเดี่ยว 2 ชั้น โดยจะเน้นระดับราคาขายที่สามารถแข่งขันในพื้นที่ได้ และมั่นใจว่าทำเลถนนหอการค้าไทยจะเป็นทำเลที่ CPN สามารถประสบความสำเร็จในการเปิดขายที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีได้


ด้านนายมงกุฎ เตโชฬาร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวราบ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น
จำกัด (มหาชน) หรือ SC 
หนึ่งในบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ที่เข้ามาลงทุนโครงการบ้านเดี่ยวรายแรก กล่าวว่า ปัจจุบัน เอสซี แอสเสท พัฒนาแล้ว 3 โครงการ โดยเป็นบ้านเดี่ยวระดับราคา 10-30 ล้านบาท โดยปิดการขายไปแล้ว 1 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ 2 โครงการ คือ 1.แบรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ แจ้งวัฒนะ บ้านหรู โครงการใหม่ inspired by bled castle, Slovenia พื้นที่ 33 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,560 ล้านบาท จำนวน 72 ยูนิต และแบรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ บ้านหรู ลา-ไน ซีรีส์ inspired by Chamonix, Mont-Blanc พื้นที่ 26 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท จำนวน 82 ยูนิต ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีที่ดินรอการพัฒนาบนถนนหอการค้าไทยอีกกว่า 70 ไร่

“เอสซี แอสเสทเล็งเห็นถึงศักยภาพทำเลถนนหอการค้าไทย ซึ่งมีความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ การเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก และยังอยู่ใกล่รถไฟฟ้าสายสีชมพู ทำให้ทำเลนี้มีศักยภาพจะพัฒนาเป็นเมืองใหม่ในอนาคต โดยเอสซีเลือกที่จะพัฒนาบ้านแนวราบราคา 2-80 ล้านบาทรองรับความต้องการลูกค้า”


กำลังโหลดความคิดเห็น