LTS..แรงจริงหรือร้อนเกินจริง / สุนันท์ ศรีจันทรา

นานเต็มทีแล้วที่ไม่ได้เห็นหุ้นน้องใหม่ตัวใด พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง โดยเข้าซื้อขายในวันแรกราคาทะยานขึ้นชนเพดานสูงสุด 200% เพิ่งจะมีหุ้นบริษัท ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LTS เป็นหุ้นใหม่ตัวแรกในรอบหลายปีที่วิ่งทะลุเพดาน 200%

LTS ดำเนินธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่งส่องสว่าง นำหุ้นจำนวน 55 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนเป็นครั้งแรก ในราคาหุ้นละ 3 บาท จากราคาพาร์ 50 สตางค์ โดยมีค่าพี/อี เรโช 19.48 เท่า

หุ้นซื้อขายวันแรกในตลาด MAI เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยราคาเปิดที่ 5.90 บาท ก่อนปิดที่ราคา 9.05 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของวันแรก เพิ่มขึ้นจากราคาจอง 6.05 บาท หรือประมาณ 201% เคาะซื้อขายกันสนั่นหวั่นไหวมูลค่า 1,311.20 ล้านบาท

โครงสร้างผู้ถือหุ้น LTS ประกอบด้วย นายภัฏ ตรัสโฆษิต ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 สัดส่วน 38.52% ของทุนจดทะเบียน นายกิตติพงศ์ วิมลโนช ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 สัดส่วน 22.38% และนายสถาพร งามเรืองพงศ์ หรือนักลงทุนรายใหญ่ฉายาเซียนฮง ถือหุ้นในสัดส่วน 1.94% โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 609 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 29.79% ของทุนจดทะเบียน

จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย LTS มีน้อยมาก จึงไม่รู้ว่ามีการกระจายหุ้นสู่นักลงทุนรายย่อยวงกว้างเพียงใด หรือเป็นเพราะนักลงทุนไม่ได้สนใจจองซื้อหุ้นตัวนี้มากนัก

แต่นักลงทุนรายย่อยคนใดที่ได้รับโควตาจัดสรรหุ้น LTS กอบโกยกำไรกันอย่างเต็มอิ่ม เพราะไม่ว่าจะขายราคาใดก็รวย เพียงแต่นักลงทุนรายย่อยที่ได้รับการจัดสรรหุ้นอาจเทขายหุ้นตั้งแต่ราคาเปิด หรือขายหมดมือตั้งแต่วันแรกแล้ว

เพราะใครจะคิดว่าหุ้นน้องใหม่อย่าง LTS จะวิ่งต่อ พุ่งแรงเกินพิกัดทะลุ 10 บาท

เพียงวันแรกที่เข้าซื้อขาย LTS ก็สร้างปรากฏการณ์หุ้นน้องใหม่ที่ทะยานทะลุเพดาน 200% ทำให้นักลงทุนที่พลาดโอกาสจองน้ำลายหก และปลุกกระแสหุ้นจองให้กลับมาสู่ความสนใจอีกครั้ง

แต่อย่ามองโลกสวยเกินไป อย่ามองว่าเล่นหุ้น LTS แล้วรวยลูกเดียว เพราะมีความเสี่ยงแฝงเร้นอยู่เหมือนกัน จนไม่รู้ว่าหุ้นน้องใหม่ตัวนี้ แข็งแกร่งจริง หรือแข็งไม่จริง โดยมีผู้อยู่เบื้องหลังการลากราคาหุ้นหรือไม่

เพราะหลังจากวิ่งติดต่อกัน 2 วันติดนับจากเข้าตลาด โดยเฉพาะการซื้อขายวันที่ 2 ซึ่งระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ราคาถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 10.60 บาท ก่อนถูกเทขายจนลงมาปิดที่ 9.25 บาท และวันที่ 3 หรือวันที่ 21 พฤษภาคม LTS ถูกทุบตั้งแต่เปิดซื้อขาย จนราคารูดลงหนัก ก่อนปิดที่ 7.90 บาท ลดลง 1.35 บาท หรือลดลง 14.59% จนนักลงทุนที่แห่เข้าไปเก็งกำไรเสียขวัญ นึกว่าเจ้ามือปิดรอบแล้ว

แต่การซื้อขายวันที่ 22 พฤษภาคม LTS กลับคึกขึ้นมาใหม่ มีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคาแต่ช่วงเช้า ราคาดีดขึ้นแรง ก่อนปิดที่ 9.35 บาท เพิ่มขึ้น 1.45 บาท หรือเพิ่มขึ้น 18.35% มูลค่าซื้อขาย 422.24 ล้านบาท และเป็นหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดอันดับ 1 ประจำวันของตลาด MAI

แม้ผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ LTS จะมีผลกำไรเติบโตสูง โดยมีกำไรสุทธิ 15.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 50% จากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10.25 ล้านบาท แต่ค่าพี/อี เรโช ตัวหุ้น ขยับขึ้นไป 44 เท่า

LTS ในราคาปิดล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จึงไม่ใช่หุ้นถูกๆ แต่เป็นหุ้นใหม่ทีมีความเสี่ยงสูง

แมลงเม่าที่คิดจะบินเข้าไปเล่นกับ LTS ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี เพราะราคาหุ้นวิ่งมาไกลมากจนน่าหวั่นไหวในความสูง