บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทยอยประกาศงบไตรมาส 1/2567 กันไปหมดแล้ว หลายบริษัทโดดเด่น สามารถประกอบธุรกิจจนมีผลกำไรเติบโตแบบน่าสนใจ โดยทำการคัดเลือกจากบริษัทที่อยู่ในดัชนีหุ้น SET 100 ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิของไตรมาส1/2567 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน ของไตรมาส1/2566 สูงสุด 10 อันดับ
1.IRPC บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ Q1/67 คือ +413.61% (Q1/67 กำไรสุทธิ 1,544.55 ล้านบาท ขณะ Q1/66 กำไรสุทธิ 300.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,243.83ล้านบาท) ,ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67คือ -4.46% ,ย้อนหลัง 5 วันคือ +0.52%, ราคา ณ 17 พ.ค.67 คือ 1.93 บาท(ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 2.54 / 1.85 บาท),มาร์เก็ตแคปล่าสุด 39,438.43 ล้านบาท,ค่าP/E - เท่า,อัตราปันผล YTD ปี 67 คือ 1.55% ,ปี 66 คือ 3.47%,ปี 65 คือ 7.28%
คาดแนวโน้มสถานการณ์ตลาดน้ำมันดิบ และตลาดปิโตรเคมีในไตรมาส 2/67 ดีขึ้นจากไตรมาสแรก มีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคการบินที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญจากการคลี่คลายของโรคระบาด COVID-19 และกิจกรรมการบินที่ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
2.SPRC บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ Q1/67 คือ +223.50% (Q1/67กำไรสุทธิ 3,943.25 ล้านบาท ขณะ Q1/66 กำไรสุทธิ 1,218.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,724.33 ล้านบาท), ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -3.64%,ย้อนหลัง 5 วันคือ +0.63%,ราคา ณ 17 พ.ค.67 คือ 7.95 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 9.65 / 7.20บาท),มาร์เก็ตแคปล่าสุด 34,470.42 ล้านบาท,ค่า P/E 23.07 เท่า,อัตราปันผล YTD ปี 67 คือ -% ,ปี 66 คือ 13.45%,ปี 65 คือ 1.67%
โบรกฯมองเป็นการกลับตัวจากการขาดทุนในไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากค่าการกลั่นตลาด (GRM) ที่แข็งแกร่งและธุรกิจ Retail and Marketing ที่แข็งแกร่งกว่าคาด คำแนะนำการลงทุนหุ้น SPRC จาก 10 โบรกเกอร์ ส่วนใหญ่มองเชิงบวก มีราคาเป้าหมาย 8.70-12.00 บาทต่อหุ้น
3.WHA บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ Q1/67คือ +161.13% (Q1/67กำไรสุทธิ 1,364.92 ล้านบาท ขณะ Q1/66 กำไรสุทธิ 522.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 842.22 ล้านบาท), ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ +1.89% ,ย้อนหลัง 5 วันคือ +6.93%, ราคา ณ 17 พ.ค.67 คือ 5.40 บาท(ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 5.55 / 4.00บาท),มาร์เก็ตแคปล่าสุด 80,712.91 ล้านบาท,ค่าP/E 15.32 เท่า,อัตราปันผล YTD ปี 67 คือ 3.41% ,ปี 66 คือ 3.15%,ปี 65 คือ 2.46%
บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" และเพิ่มราคาเหมาะสมปี 2567 เป็น 6.25 บาท จาก 5.70 บาท เพื่อสะท้อนความต้องการที่ดินในนิคมฯของ WHA ที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้บริษัทฯ ปรับเพิ่มราคาขายได้อย่างมีนัย ..มีโอกาสสูงที่ WHA จะปรับเป้ายอดขายที่ดินนิคมฯขึ้นในไตรมาส 3/67 จาก 2,275 ไร่ เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่ 2-3 รายในหลากหลายกลุ่มธุรกิจอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจา
4.CBG บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ Q1/67 คือ+138.15% (Q1/67กำไรสุทธิ 628.23 ล้านบาท ขณะ Q1/66 กำไรสุทธิ 263.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น364.44 ล้านบาท), ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -16.36%, ย้อนหลัง 5 วัน คือ +2.99%, ราคา ณ 17 พ.ค.67 คือ 69.00 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์คือ 89.50 / 61.25 บาท), มาร์เก็ตแคปล่าสุด 69,000.00 ล้านบาท, ค่า P/E 30.15 เท่า, อัตราปันผล YTD ปี 67คือ 1.30% ,ปี 66 คือ 1.82%,ปี 65 คือ 1.96%
นอกจากนี้ บริษัทฯมีรายได้จากการขายรวมเท่ากับ 4,935 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการดำเนินการผลิต ภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเองจำนวน 2,838 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากทั้งธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV ที่กลับมาฟื้นตัว
5.ITC บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ Q1/67 คือ +93.12% (Q1/67 กำไรสุทธิ 821.05 ล้านบาท ขณะ Q1/66 กำไรสุทธิ 425.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น395.90 ล้านบาท) ,ผลตอบแทนราคาYTD ปี 67 คือ+0.47%,ย้อนหลัง 5 วัน คือ +1.92%, ราคา ณ 17 พ.ค.67 คือ 21.20 บาท(ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 24.20 / 15.70 บาท),มาร์เก็ตแคปล่าสุด 63,600.00 ล้านบาท,ค่า P/E 23.76 เท่า,อัตราปันผล YTD ปี 67 คือ 2.83% ,ปี 66 คือ 0.95%
โบรกฯคาดผลดำเนินงานไตรมาส 2/67 ของ ITC ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง YoY และคาดกำไรปี 2567 อยู่ที่ 2.93 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 28.6% YoY โดยกำไรไตรมาส 1/67 คิดเป็น 28% ของที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ โดยคาด Gross Margin ปี 2567 ที่ 22.5% สูงกว่าปี 2566 จากต้นทุนวัตถุดิบ อาทิ ปลาทูน่าที่คาดว่าจะปรับตัวลดลง ประกอบกับการเพิ่มสินค้าใหม่ที่มี Margin สูงขึ้นและคาดสถานการณ์ Destocking กลับสู่สภาวะปกติ และคาดสัดส่วนรายได้จากกลุ่มสินค้า Premium จะสูงกว่าปี 2566
6.ERW บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ Q1/67 คือ +74.78% (Q1/67กำไรสุทธิ 416.95 ล้านบาท ขณะ Q1/66 กำไรสุทธิ 238.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 178.39 ล้านบาท) ,ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ -9.71%,ย้อนหลัง 5 วันคือ -2.47%, ราคา ณ 17 พ.ค.67 คือ 4.74บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 4.74 บาท),มาร์เก็ตแคปล่าสุด 21,479.59 ล้านบาท,ค่า P/E 23.32 เท่า,อัตราปันผล YTD ปี 67 คือ 1.48%
โบรกฯคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567E เติบโตได้ที่ +10% YoY จากการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่แนวโน้มกำไรปกติ Q2/67E จะเพิ่มขึ้น YoY จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฐานต่ำในปีก่อน แต่ลดลง QoQ เพราะเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season ขณะที่จะมีกำไรพิเศษจากการขาย ERWPF ราว 200 ล้านบาท (Non-cash item) เข้ามาช่วยหนุนอีกในปี 2567E
7.BLA บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ Q1/67 คือ+64.16% (Q1/67กำไรสุทธิ 1,241.25 ล้านบาท ขณะ Q1/66 กำไรสุทธิ 756.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 485.11 ล้านบาท) ,ผลตอบแทนราคาYTD ปี67คือ +4.00% ,ย้อนหลัง 5 วันคือ +4.00%, ราคา ณ 17 พ.ค.67 คือ 20.80 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 29.25 / 17.00 บาท),มาร์เก็ตแคปล่าสุด 35,517.37 ล้านบาท,ค่าP/E 11.71 เท่า,อัตราปันผล YTD ปี 67 คือ 2.31% ,ปี 66 คือ 3.00%,ปี 65 คือ 1.95 %
ทั้งนี้สัดส่วนช่องทางจำหน่ายของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกสำหรับไตรมาส 1/67 แบ่งเป็นช่องทางธนาคาร 70% ช่องทางตัวแทน 25% และช่องทางอื่นๆ 5% ตามลำดับ ในส่วนของค่าใช้จ่ายในไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 9,384 ล้านบาท ลดลง 8% จากปีที่แล้ว จากสำรองประกันชีวิตที่ลดลงจากกรรมธรรม์ที่ครบกำหนด
8.ICH Iบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ Q1/67 คือ +64.06% (Q1/67 กำไรสุทธิ 363.77 ล้านบาท ขณะ Q1/66 กำไรสุทธิ 221.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142.04 ล้านบาท) ,ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ +15.92% ,ย้อนหลัง 5 วันคือ +1.11%, ราคา ณ 17 พ.ค.67 คือ 18.20 บาท(ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ18.80 / 12.70 บาท),มาร์เก็ตแคปล่าสุด 23,660.00 ล้านบาท,ค่าP/E 19.04 เท่า,อัตราปันผลYTD ปี 67 คือ 5.49% ,ปี 66 คือ 3.82%,ปี 65 คือ 4.42%
บริษัทคาดแนวโน้มผลงานในไตรมาส 2/2567 น่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาส1/2567 และอาจจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด (นิวไฮน์) ของปีนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ยอดขายเครื่องดื่มต่างๆ เติบโตอย่างโดดเด่น ประกอบธุรกิจมีการนำเสนอโปรดักส์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเข้ามาสนับสนุนการเติบโตอีกทางหนึ่ง
9.BAM บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ Q1/67 คือ +58.84% (Q1/67 กำไรสุทธิ 423.41 ล้านบาท ขณะ Q1/66 กำไรสุทธิ 266.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156.85 ล้านบาท) ,ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67 คือ +9.82%,ย้อนหลัง 5 วัน คือ -2.19%, ราคา ณ 17 พ.ค.67 คือ 8.95 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 12.30 / 7.75บาท),มาร์เก็ตแคปล่าสุด 28,926.78 ล้านบาท,ค่า P/E 17.10 เท่า,อัตราปันผล YTD ปี 67 คือ 4.25% ,ปี 66 คือ 6.75%,ปี 65 คือ 3.48%
บอร์ด BAM อนุมัติจัดตั้ง AMC ร่วมกับ ธนาคารออมสิน ถือหุ้นในสัดส่วนฝ่ายละ 50% ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 25 ล้านบาท และภายหลังเพิ่มทุนเป็น 1,000 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพตามกฎหมายและเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
10.CPALL บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) อัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ Q1/67 คือ +53.28% (Q1/67กำไรสุทธิ 6,319.40 ล้านบาท ขณะ Q1/66 กำไรสุทธิ 4,122.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,196.62 ล้านบาท) ,ผลตอบแทนราคา YTD ปี 67คือ +5.36% ,ย้อนหลัง 5 วันคือไม่เปลี่ยนแปลง, ราคา ณ 17 พ.ค.67 คือ 59.00 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 66.25 / 50.50 บาท),มาร์เก็ตแคปล่าสุด 530,002.98 ล้านบาท,ค่า P/E 25.63 เท่า,อัตราปันผล YTD ปี 67คือ 1.69% ,ปี 66 คือ 1.34%,ปี 65 คือ 0.88%
โบรกฯระบุ กำไร Q1/67 ดีเกินคาดมาก หนุนให้ปรับเพิ่มประมาณกำไรปีนี้และปีหน้า โดยคาดกำไรปีนี้จะเติบโต 37% และเติบโตอีก 24% ในปีหน้า และ CPALL แข็งแกร่งสุดในกลุ่มค้าปลีก คาดหนุนกำไร Q2/67 เติบโตเด่น
อย่างไรก็ตาม หลังประกาศ งบไตรมาส1/2567 หุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่ได้รับอานิสงส์ ทำให้ราคาปรับขึ้นไปอย่างมีนัยยสำคัญ จึงน่าจับตาว่าในไตรมาส 2/2567 หุ้นเหล่านี้จะสามารถทำอัตราการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ ได้สูงเหมือนกับไตรมาสที่ผ่านมาหรือไม่?