แบรนด์อสังหาฯ อันดับหนึ่ง แสนสิริ (SIRI) โชว์ผลสำเร็จไตรมาสแรกปี 67 ที่โดดเด่น กวาดรายได้รวม 10,170 ล้านบาท เติบโต 20% สอดคล้องตามกลยุทธ์รักษาผลประกอบการให้เติบโตอย่างสม่ำเสมอ บริหารจัดการพอร์ตสินค้าพร้อมขายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,315 ล้านบาท ขณะที่ทริสเรทติ้งยืนยันเครดิตองค์กรอยู่ระดับ BBB+ เชื่อมั่นมาตรการอสังหาฯ หนุนตลาดขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้า Speed to Market ต่อความสำเร็จ ลุยไตรมาส ทุ่ม 12,000 ล้านบาท เปิดตัว 11 โครงการใหม่ ไฮไลต์แบรนด์ใหม่ ELSE รุกตลาดแนวราบ และ PYNN เอ็กซ์คลูซีฟ คอนโดฯ จ่อเปิดตัวโครงการแรก PYNN Pridi20
นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เผยว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 แสนสิริมีรายได้รวมในไตรมาสแรกอยู่ที่ 10,170 ล้านบาท โตขึ้น 20% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นผลงานมาจากรายได้จากการขายโครงการที่เพิ่มขึ้นถึง 32% อยู่ที่ 8,901 ล้านบาท นำด้วยรายได้จากโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี และซูเปอร์ลักชัวรีจากแสนสิริ ทั้งการโอนต่อเนื่องของโครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา โครงการบูก้าน พระราม 9-เหม่งจ๋ายที่ปิดการขายภายใน 1 วัน และเริ่มโอนในไตรมาสนี้
ผลงานโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์เศรษฐสิริ เช่น เศรษฐสิริ ดอนเมือง เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ และเศรษฐสิริ วงแหวน-จตุโชติ รวมทั้งมิกซ์ โปรดักต์บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในแบรนด์อณาสิริ โครงการ อณาสิริ พายัพ ที่ตรงใจไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าชาวเชียงใหม่ Sold out! ปิดการขาย 2 เฟสรวด รวม 50 ยูนิต และเตรียมเปิดขายในเฟสที่ 3 เดือน มิถุนายนนี้ รวมทั้งการโอนโครงการอณาสิริ สรงประภา และโครงการอณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนา นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม และผลงานการเปิดขายโครงการคอนโดฯ พร้อมโอนโครงการ เนีย บาย แสนสิริ เป็นต้น
โดยนอกจากรายได้ที่โดดเด่นในทุกโปรดักต์ แสนสิริยังมีกำไรสุทธิในไตรมาสแรกอยู่ที่ 1,315 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการยืนหยัดสร้างผลกำไรที่ดีท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงและภาวะตลาดอสังหาฯ ที่ทยอยฟื้นตัว
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้แสนสิริได้รับการยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ที่ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทอยู่ที่ระดับ BBB+ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความน่าเชื่อถือในระดับการลงทุน จากทริสเรทติ้ง โดยอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ สะท้อนถึงสถานะผู้นำตลาดของบริษัทในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง และสินค้าที่มีความหลากหลาย ทริสเรทติ้งคาดว่า แสนสิริจะยังคงสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง และขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดพัฒนาที่อยู่อาศัยในช่วง 3 ปีข้างหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ รายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทจัดอยู่ใน 5 อันดับแรกของผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อเนื่องมานานหลายปี โดยกำไรขั้นต้นของบริษัทในช่วงปี 2564-2566 สู่ระดับ 34-35%
“ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 2 คาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาฯและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาฯ และการเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก เพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของประชาชน จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้อุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี โดยเพื่อตอกย้ำการก้าวสู่ปีที่ 40 ก้าวสำคัญที่กล้าจะแตกต่าง จากความเป็นผู้นำด้านดีไซน์และบริหารหลังการขาย มุ่งยกระดับคุณภาพสินค้าและการอยู่อาศัย แสนสิริเดินหน้าด้วยกลยุทธ์อย่างเหนือกว่าผ่านการตลาดที่แข็งแกร่ง รวมถึงการบริหารจัดการพอร์ตสินค้าพร้อมขายให้กระจายไปในหลากหลายทำเล เพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบในการแข่งขัน”
ลุยต่อไตรมาส 2 ทุ่มเปิด 11 โครงการ 12,000 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 2 แสนสิริวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ราว 11 โครงการ มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 5 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 7,800 ล้านบาท เช่น เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเดนซ์ หัวหิน “เศรษฐสิริ รวมโชค” บ้านดีไซน์ Modern Classic วิวดอยสุเทพ ราคาเริ่มต้น 20-35 ล้านบาท “สราญสิริ ศรีนครินทร์-แพรกษา” บ้านเดี่ยว ทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานีแพรกษา เริ่ม 6.99 ล้านบาท และ “สราญสิริ ศาลายา-ปิ่นเกล้า” บ้านเดี่ยว เริ่ม 9 ล้าน เปิดพรีเซลล์พร้อมกัน 2 โครงการ วันที่ 18-19 พ.ค.นี้
“อณาสิริ อยุธยา 2” บ้านเดี่ยว-บ้านแฝด Modern Japanese แห่งเดียวในอยุธยา ส่วนกลางจัดเต็มกว่า 1 ไร่ ติดถนน 3477 เชื่อมต่อทุกเส้นทาง เริ่ม 3.99 ล้านบาท*
นอกจากนี้ เตรียมเปิดขายคอนโดฯ ใหม่ เพียง 200 เมตร จากเซ็นทรัล เชียงใหม่ และ THE MUVE สุขุมวิท 107 คอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ได้ รวมถึงไฮไลต์เปิดตัวแบรนด์ใหม่ในปีนี้ ทั้ง ELSE แบรนด์แนวราบ และ PYNN (พินน์) โครงการแรก PYNN Pridi20 เอ็กซ์คลูซีฟ คอนโดฯ เพียง 36 ยูนิต เลี้ยงสัตว์ได้ ขนาด 1 ห้องนอน 34 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท เปิดตัวโครงการพร้อมอยู่วันที่ 18-19 พฤษภาคมนี้
