หุ้นไทยปิด +0.60 จุด นักวิเคราะห์เผย หุ้นไทยแกว่งตัวไซด์เวย์ออกด้านข้างในวันนี้ มีทั้งแรงหนุนและแรงกดดันในตลาดหุ้น หลังหุ้นค้าปลีกรับรู้ผลประกอบการสร้างความเชื่อมั่นเชิงบวกจากผลดำเนินงานไตรมาส 1/67 ของ CPALL ที่ทำออกมาดี ขณะที่แรงกดดันเชิงลบจากหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน (EA) ทำให้เกิด sell on fact อีกทั้งตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามา ทำให้ดัชนีฯปรับตัวได้ในกรอบแคบๆ ประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์นี้แนวต้าน 1,380 จุด แนวรับ 1,360 จุด แนะจับตาการรายงานตัวเลข PPI และ CPI สหรัฐฯเดือน เม.ย. ที่จะประกาศกลางสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 13 พ.ค. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.60 จุด หรือ +0.04% โดยปิดตลาดที่ 1,372.50 จุด มูลค่าซื้อขาย 45,517.11 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการลงทุนในวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวไซด์เวย์ทั้งแดนบวกและลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,375.14 จุด ในทิศทางตรงกันข้ามที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,366.06 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 232 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 163 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 264 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +1,150.45 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -875.67 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -113.83 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -160.95 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 4,855.24 ล้านบาท ปิดที่ 60.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
2.EA มูลค่าการซื้อขาย 1,780.91 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
3.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,366.96 ล้านบาท ปิดที่ 106.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,275.37 ล้านบาท ปิดที่ 29.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
5.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,198.89 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CBG ปิดที่71.25 บาท เพิ่มขึ้น 4.25บาท หรือ 6.34%
2.BH ปิดที่258.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00บาท หรือ 1.57%
3.SAPPE ปิดที่98.50บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท หรือ 3.96%
4.CPALL ปิดที่60.50บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 2.54%
5.MOSHI ปิดที่51.75บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 2.99%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EA ปิดที่26.00 บาท ลดลง 3.50บาท หรือ 11.86%
2.SCB ปิดที่106.50 บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 1.39%
3.NEX ปิดที่7.60 บาท ลดลง 1.15บาท หรือ 13.14%
4.GPSC ปิดที่49.25 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 1.99%
5.DELTAปิดที่ 70.75 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 1.39%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,865.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.60 จุด หรือ 0.09% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 844.41 จุด เพิ่มขึ้น 0.66 จุด หรือ 0.08% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 386.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.08 จุด หรือ 0.02%
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ออกด้านข้าง โดยได้รับแรงหนุนหุ้นค้าปลีกจาก sentiment บวกหลังจากผลดำเนินงานไตรมาส 1/67 ของ CPALL ออกมาดี ทำให้ดัชนีกลุ่ม Commerce บวก 240.07 จุด (-0.79%) เป็นแรงส่งสำคัญวันนี้
ขณะเดียวกัน ดัชนีเผชิญแรงกดดันจากหุ้นกลุ่ม EA รวมถึงเกิด sell on fact กลุ่มแบงก์เพื่อเปลี่ยนกลุ่มเล่น ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่อื่นๆ เข้ามา ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน
"แนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดจะแกว่งไซด์เวย์ต่อไประหว่างรอติดตามการรายงานตัวเลข PPI และ CPI สหรัฐฯเดือน เม.ย. ที่จะประกาศกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งมีผลต่อทิศทางสินทรัพย์ต่างๆ รวมถึงการคาดการณ์โอกาสการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พร้อมให้แนวต้าน 1,380 จุด แนวรับ 1,360 จุด" นายวีระวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย