xs
xsm
sm
md
lg

3 แนวโน้มที่ต้องคำนึงถึงก่อนที่ตลาดขาขึ้นของบิทคอยน์จะกลับมาอีกครั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากการเปิดเผยของ cointelegrap กล่าวว่าตลาดกระทิงครั้งต่อไปของคริปโตได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยความแตกต่างที่สำคัญที่สุดประการหนึ่ง เมื่อเทียบกับรอบที่ผ่านมา อยู่ที่ประเภทของนักลงทุนรายใหม่ที่เข้าสู่ตลาดกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ เมื่อกองทุนเปิดการซื้อขายบิทคอยน์ อีทีเอฟ เชื่อมต่อการลงทุนระหว่างรูปแบบเดิมและสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ ซึ่งปูทางไปสู่การออก Ethereum ETF ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติซื้อขายในเร็วๆนี้

ขณะที่นักลงทุนรายใหม่อาจต้องปรับตัวในการทำความเข้าใจรูปแบบของคริปโต แต่ทั้งนี้มีกรอบการทำงานที่คุ้มค่าในการพิจารณาการลงทุนครั้งแรก

เริ่มต้นง่าย กำไรเล็กน้อย อย่าโลภหวังรวยเร็ว


ผู้เริ่มต้นมักเริ่มต้นด้วยการลงทุนในชื่อใหญ่ๆ เช่น Bitcoin และ Ethereum โดยส่วนใหญ่นักลงทุน สามารถลงทุนใน Bitcoin และรออย่างน้อยหกเดือน ก่อนที่จะตรวจสอบราคาเพื่อพิจารณาผลตอบแทนที่เหมาะสมในการขายทำกำไรหรือไม่ แต่สำหรับผู้ที่มีเงินลงทุนเพียงไม่กี่พันดอลลาร์ การลงทุนในบิทคอยน์จะไม่ทำให้เป็นเศรษฐีได้ เนื่องจากศักยภาพการเติบโตในระยะใกล้ถึงระยะกลางอยู่ที่ 2-3 เท่าของมูลค่าปัจจุบัน

นักลงทุนผู้เล่นที่มีประสบการณ์เข้าใจว่าพวกเขาจำเป็นต้องตรวจสอบเทรนด์ล่าสุด หากทำถูกต้อง การลงทุนในโครงการเล็กๆ หลายสิบโครงการก็สามารถให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าจริงๆ โดยสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในช่วงขาขึ้นครั้งก่อน เช่นโปรโตคอลเลเยอร์ 1 ใหม่ และแพลตฟอร์มการให้กู้ยืม อาจเสนอโอกาสในการเพิ่มการลงทุน 5 ถึง 10 เท่า

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงและผลตอบแทนเป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน ซึ่งนักลงทุนต้องพร้อมยอมรับความเสี่ยงที่จะขาดทุนในสกุลเงินดิจิทัลมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับเวลา ทรัพยากร และการศึกษาพฤติกรรมของตลาดที่เลือกลงทุน
มีเรื่องเล่าสามเรื่องที่ผู้ใช้ใหม่โดยเฉลี่ยที่ไม่มีประสบการณ์ที่น่าประทับใจอยู่เบื้องหลังเขาเข้าใจและเชื่ออย่างมีเงื่อนไข สิ่งสำคัญคือการเข้าใจเรื่องราวเบื้องหลังผลิตภัณฑ์แต่ละรายการ นวัตกรรมยืนอยู่แถวหน้าของพื้นที่นี้เพราะผู้คนใน crypto มีนวัตกรรมและมองหาสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ฉันเห็นแนวโน้มดังกล่าวสามประการเกิดขึ้น

Bitcoin จะถึงจุดสูงสุดจริง ๆ ภายในสิ้นปี 2568 หรือไม่? ที่มา: X
3 ประเด็นสำคัญที่ควรตระหนัก

ประการแรก 
คือการผสมผสานระหว่างปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยขณะนี้มีโครงการจำนวนมากที่พยายามสร้างสรรค์นวัตกรรมในระหว่างจุดตัดของบล็อคเชนและ AI แม้ว่าจะไม่รับประกันว่าความพยายามเหล่านี้จะให้ผลลัพธ์ที่ประสบผลสำเร็จ แต่การขับเคลื่อนศักยภาพของบล็อกเชนและความก้าวหน้าล้ำสมัยของ AI ในเทรนด์นี้ ก็มีความแข็งแกร่ง ซึ่งสามารถดึงดูดจินตนาการของนักลงทุนและผู้ที่สนใจได้ โดยเฉพาะการนำ RitualNet และ Morpheus มาใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มการลงทุนคริปโต

แนวโน้มที่สอง
เจาะลึกประเด็นพื้นฐานเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับโทเค็นของสินทรัพย์ จริงหรือโทเค็นของตราสารหนี้ ในตลาดแบบดั้งเดิม ซึ่งตลาดตราสารหนี้ มีขนาดใหญ่กว่าตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม ในขอบเขตคริปโตขณะนี้ไม่มีตลาดตราสารหนี้ โดยมีการนำ Stablecoin มาใช้เป็นตัวกลางอ้างอิงเชื่อมต่อสินทรัพย์สกุลเงินเฟียต (Fiat) กับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้น เนื่องจากบริษัทต่างๆ ออกเหรียญ Stablecoin เพื่อแลกกับดอลลาร์จริง จากนั้นจึงสามารถแปลงประเภทไปซื้อพันธบัตรระยะสั้นของสหรัฐฯ ได้ อย่างไรก็ตาม แนวคิดเรื่องหนี้ของบริษัทยังคงไม่ถูกแตะต้องภายในตลาดคริปโต ดังนั้นทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับโทเค็นในลักษณะตราสารหนี้ จึงมีศักยภาพมหาศาล โดยเฉพาะ PV01 และ Ondo Finance ซึ่งเป็น 2 โครงการที่มีความโดยเด่นในลักษณะการลงทุนดังกล่าวนี้

 แนวโน้มของโทเค็น AI ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2024 ที่มา: CoinGecko
เทรนด์ที่สาม มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีบล็อกเชน ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพ เพิ่มปริมาณงาน และลดต้นทุนการดำเนินงาน โดยใช้เทคโนโลยีใหม่เช่น Ethereum Virtual Machines (EVM) แบบขนาน เพื่อประมวลผลหลายสิ่งหลายอย่างพร้อมกัน ช่วยเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม ในทำนองเดียวกันการพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลให้อีกฝ่ายรู้ หรือเป็นการตรวจสอบการอ้างสิทธิ์โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูล ( Zero Knowledge หรือ ZK) ซึ่งช่วยให้ทุกอย่างเป็นส่วนตัวแต่เรียบง่าย ทำให้ทั้งระบบทำงานราบรื่นขึ้นและมีค่าใช้จ่ายน้อยลง ซึ่งขณะนี้ Sei และ Monad เป็นโครงการที่น่าจับตามองในการนำเสนอนวัตกรรมร่วมลงทุนขณะนี้

ดังนั้น เมื่อนักลงทุนพิจารณาที่จะลงทุนในเทรนด์การลงทุนประเภทใดๆ โปรดจำไว้ว่ากองทุนขนาดใหญ่น่าจะเคลื่อนไหวไปแล้ว หากมีการนำเสนอข้อมูลที่เห็นได้ชัดเจน ซึ่งกองทุนขนาดใหญ่จะเน้นลงทุนในเรื่องนั้นไปแล้ว ซึ่งนี่เป็นเครื่องเตือนใจที่ดีในการตอกย้ำข้อมูลการลงทุน ทำให้เข้าใจว่าในโลกแห่งการลงทุน ยักษ์ใหญ่มักจะเป็นผู้นำเกม


กำลังโหลดความคิดเห็น