•การันตีโดยรางวัล Fitwel มาตรฐานระดับโลกสูงสุด 3 ดาว ประเภท Multi-Tenant Base Building อาคารแรกในไทยและเอเชีย ที่จะมาสร้างแรงกระเพื่อมย่านพระราม 3 ให้เป็นย่านสังคมคุณภาพ
•พลิก Landscape เมือง และเติมเต็มย่านพระราม 3 ให้เป็นย่านสังคมคุณภาพที่ครบครันที่สุดอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ
“คิงบริดจ์ ทาวเวอร์” (KingBridge Tower) อาคารสำนักงานให้เช่าโดยบริษัท คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ จำกัด บริษัทในเครือสหพัฒน์ ที่มาเปลี่ยนนิยามการมาทำงานในออฟฟิศให้เหมือนอาศัยใน “บ้านหลังใหม่” ที่จะ ‘อยู่แล้วยิ้ม’ มอบความสุขและรอยยิ้มให้ทุกคน สถาปัตยกรรมที่สวยงามตั้งตระหง่านเคียงคู่สะพานภูมิพล บนถนนพระราม 3 กับมูลค่าการลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 6 ไร่ 52 ชั้น โดยปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% มีอัตราผู้เช่าแล้วกว่า 50% ซึ่งถือว่าเร็วกว่าแผนงานเดิมที่วางไว้ และพร้อมเปิดอย่างเป็นทางการไตรมาส 4 ปีนี้ รับชมคลิปแนวคิดโครงการได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=EmblcHtCuno&t=1s
ความสำเร็จตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวส่งผลให้ ‘KingBridge Tower’ ถูกจับตามองในฐานะอาคารสำนักงานให้เช่าเกรด A แห่งใหม่บนทำเลธุรกิจย่านพระราม 3 ที่มาพร้อมความทันสมัย สะดวกสบายและยังตอบโจทย์แนวคิดการสร้างอาคารยุคใหม่ ด้วยการนำโมเดลตามแนวคิดหลัก “เศรษฐกิจหมุนเวียน” (Circular Economy Models) มาใช้พัฒนาโครงการในทุกมิติ สร้างมาตรฐานการออกแบบพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีต่อสังคมและชุมชนโดยรอบ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
หากย้อนไปจุดเริ่มต้น ‘คิงบริดจ์ ทาวเวอร์’ ยังถือเป็นอาคารสูงแห่งแรกของเครือสหพัฒน์หลังผ่านการดำเนินงานมากว่า 80 ปี ที่พร้อมจะเป็นพื้นที่ให้พันธมิตรบริษัทต่างๆ ทั้งไทยและเทศ รวมทั้งบริษัทในเครือได้มาแลกเปลี่ยน สร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกันให้ทุกๆ องค์กรได้เติบโตมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด The Spirit of Synergy โดยใช้ระยะเวลาการก่อสร้างกว่า 3 ปี และพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 4/2567 นี้
คุณวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันก่อนเปิดโครงการคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ มีจำนวนผู้เช่าแล้วกว่า 50% เช่น บริษัท รักษาความปลอดภัย ไทยซีคอม จำกัด บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จํากัด บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น ทั้งหมดเป็นบริษัทที่มีมาร์เกตแคปรวมกันในระดับหลักแสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญในการรวมผู้ประกอบที่ดี บริษัทที่ดี เข้ามาอยู่ในตึกนี้เพื่อช่วยผสานพลังในการผลักดันให้เศรษฐกิจในย่านพระราม 3 คึกคักมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตทำให้สามารถเปลี่ยนแปลง Landscape ของพระราม 3 ได้ โดยเรายังมีแผนสร้างความเจริญและพัฒนาย่านพระราม 3 อย่างต่อเนื่องอีกในอนาคต
นอกจากเป้าหมายด้านเศรษฐกิจ อาคารแห่งนี้ยังเชื่อใน The Spirit of Synergy ที่ต้องการให้พนักงาน บริษัทผู้เช่าทุกคนให้ทำงานอย่างมีความสุข สร้างความสำเร็จร่วมกันเพื่อสร้างโอกาสทางการเติบโตของธุรกิจที่มากกว่า และความยั่งยืนให้แก่ประเทศไทย”
คุณประเมศฐ์ ฤทธิพรพสิษฐ์ ผู้อำนวยการก่อสร้างโครงการคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ กล่าวว่า “ปัจจุบัน คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ เริ่มดำเนินการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 80% และคาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2567 นี้ ซึ่งถือว่าไปได้เร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ โดยคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ มีความพร้อมและมั่นใจในการต้อนรับผู้เช่าทุกคนสู่บ้านหลังใหม่ ที่มีความครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การทำงาน ตั้งแต่เรื่องของสิ่งแวดล้อม การอำนวยความสะดวก มาตรฐานความปลอดภัย ไปจนถึงเรื่องของการเดินทางสำหรับพนักงานและบริษัทต่างๆ”
ด้านคุณชาติ จันทร์วิจิตร ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “กว่า 55 ปีของไลอ้อนฯ ซึ่งมีออฟฟิศตั้งอยู่ในย่านพระราม 3 (สาธุประดิษฐ์) มาตลอด วันนี้เราพร้อมและภูมิใจที่จะขยับขยายสู่บ้านหลังใหญ่ที่สูงตระหง่าน โดยหลังจากปลายปี 2567 พนักงานกว่า 300 ชีวิตมาทำงานที่บ้านหลังใหม่แห่งนี้ ซึ่งจะเป็น milestone สำคัญที่จะยกระดับการใช้ชีวิตการทำงานของพนักงานของบริษัท การสร้างความเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจ และใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน และมั่นใจว่าอาคารแห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่ง Iconic Landmark แห่งใหม่ที่ช่วยสร้างความคึกคัก และเศรษฐกิจย่านพระราม 3 รองรับผู้เช่าและนักลงทุนทั้งไทย-เทศได้เป็นอย่างดี”
ความพิเศษของคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานอัจฉริยะ (Smart Building) ที่ผู้เช่าสามารถเข้าถึงข้อมูลผ่าน Smart Dashboard และ Application ได้ และลิฟต์ภายในอาคารจอดรถยังใช้ระบบ Hologram ที่แรกในประเทศไทย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดการออกแบบที่เป็นสถาปัตยกรรมเคียงคู่สะพานภูมิพล คือ“กลมกลืน” ไปกับบริบทและความงดงามของสะพาน
อีกความพิเศษของคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ คือการสร้างอาคารที่ใส่ใจผู้คนที่อาศัยอยู่ในอาคาร และดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม โดยมีการติดตั้ง Façade รอบอาคารที่มีระยะปรับตามระดับแสงแดดที่ส่องถึง เพื่อให้เป็นร่มเงาให้ตึก ลดความร้อนที่เข้ามาในตัวอาคาร ทำให้พนักงานสามารถนั่งทำงานริมกระจกได้โดยไม่รู้สึกร้อน นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยลดการใช้แอร์และปล่อยความร้อนออกจากตัวอาคารน้อยลง
ภายในอาคารติดตั้งระบบกรองอากาศประสิทธิภาพสูง สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 และกรองฝุ่นละอองขนาด 0.3 micron ได้ถึง 90% นอกจากนี้ ยังฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียทางอากาศด้วยระบบ UV-C การันตีด้วยมาตรฐานสากลต่างๆ เช่น WiredScore Platinum (Pre-certified), LEED, Fitwel ระดับสูงสุด 3 ดาว ประเภท Multi-Tenant Base Building อาคารแรกในไทยและในเอเชีย เพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคารระดับสากล และเป็นโครงการต้นแบบอาคารอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ตามหลัก CECI หรือกลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งเป็นการสร้างความสุขให้ผู้อยู่อาศัย และใส่ใจสิ่งแวดล้อมโดยรอบเป็นการสร้างความสุข และรอยยิ้มให้ทุกคนได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
นอกจากอาคารให้เช่าที่มีพื้นที่รวมทั้งสำนักงานและร้านค้ากว่า 40,000 ตารางเมตรแล้ว ภายในยังมีศูนย์อาหารคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ที่ “อร่อย สะอาด ราคาไม่แพง” ให้พนักงานทุกคนได้รับประทานอาหารไปพร้อมกับชมวิวสะพาน และร้านอาหารหลากหลายที่คัดสรรมาแล้วว่าอร่อย ไว้คอยอำนวยความสะดวกพนักงาน ลูกค้า ตั้งแต่มื้อเช้า กลางวัน ไปจนถึงมื้อเย็น นอกจากนี้ยังมีการจัดเชฟมีฝีมือ และพาร์ตเนอร์ในเครือหรือพาร์ตเนอร์ต่างๆ หมุนเวียนกันเข้ามาบริการอาหาร ให้สามารถเลือกรับประทานได้ตลอดทั้งวัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพพนักงานที่อยู่ภายในอาคารให้ได้รับประทานอาหารที่อร่อยสะอาด และมีคุณภาพตลอดเวลา เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคาร และยังมีร้านค้า และบริการต่างๆ ภายในอีกด้วย
ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและเตรียมพร้อมในการเดินทางแก่พนักงานและผู้เช่าทุกคน คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ ได้มีการจัดบริการ EV Shuttle Bus เพื่ออำนวยความสะดวกทุกวัน โดยสามารถเดินทางจากรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มายังอาคารคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ โดยใช้เวลาเพียงประมาณ 15 นาที นอกจากนี้ด้วยการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็ยังสะดวกสบายโดยใช้เวลาเพียง 15 นาที ไปยังย่านธุรกิจสาทร และพระราม 4 และ 5 นาทีเดินทางไปยังทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนศรีรัช และยังติดกับ BRT วัดด่าน
“คิงบริดจ์ ทาวเวอร์” ได้รับการออกแบบผ่านแนวคิดการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ The Spirit of Synergy ในการสร้างสรรค์พื้นที่ทุกตารางนิ้ว ให้ทุกคน “อยู่แล้วยิ้ม” จนได้รับรางวัล Fitwel มาตรฐานระดับโลกสูงสุด 3 ดาว ประเภท Multi-Tenant Base Building อาคารแรกในไทยและเอเชีย เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคาร และยังคว้ารางวัล THE WINNER ทั้งหมด 3 รางวัล จากเวทีอันทรงเกียรติ Property Guru Asia Property Awards 2023 ซึ่งเป็นการมอบรางวัลให้แก่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการ การออกแบบที่ยอดเยี่ยม และดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ถือเป็นบทพิสูจน์ผลงานที่ได้รับการยอมรับในระดับมาตรฐานนานาชาติ ได้แก่ Best Office Development, Best Office Interior Design และ Best Office Architectural Design
ความสำเร็จตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวส่งผลให้ ‘KingBridge Tower’ ถูกจับตามองในฐานะอาคารสำนักงานให้เช่าเกรด A แห่งใหม่บนทำเลธุรกิจย่านพระราม 3 ที่มาพร้อมความทันสมัย สะดวกสบายและยังตอบโจทย์แนวคิดการสร้างอาคารยุคใหม่ ด้วยการนำโมเดลตามแนวคิดหลัก “เศรษฐกิจหมุนเวียน” (Circular Economy Models) มาใช้พัฒนาโครงการในทุกมิติ สร้างมาตรฐานการออกแบบพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีต่อสังคมและชุมชนโดยรอบ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
หากย้อนไปจุดเริ่มต้น ‘คิงบริดจ์ ทาวเวอร์’ ยังถือเป็นอาคารสูงแห่งแรกของเครือสหพัฒน์หลังผ่านการดำเนินงานมากว่า 80 ปี ที่พร้อมจะเป็นพื้นที่ให้พันธมิตรบริษัทต่างๆ ทั้งไทยและเทศ รวมทั้งบริษัทในเครือได้มาแลกเปลี่ยน สร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกันให้ทุกๆ องค์กรได้เติบโตมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด The Spirit of Synergy โดยใช้ระยะเวลาการก่อสร้างกว่า 3 ปี และพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 4/2567 นี้
คุณวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันก่อนเปิดโครงการคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ มีจำนวนผู้เช่าแล้วกว่า 50% เช่น บริษัท รักษาความปลอดภัย ไทยซีคอม จำกัด บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จํากัด บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น ทั้งหมดเป็นบริษัทที่มีมาร์เกตแคปรวมกันในระดับหลักแสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญในการรวมผู้ประกอบการที่ดี บริษัทที่ดี เข้ามาอยู่ในตึกนี้เพื่อช่วยผสานพลังในการผลักดันให้เศรษฐกิจในย่านพระราม 3 คึกคักมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตทำให้สามารถเปลี่ยนแปลง Landscape ของพระราม 3 ได้ โดยเรายังมีแผนสร้างความเจริญและพัฒนาย่านพระราม 3 อย่างต่อเนื่องอีกในอนาคต
นอกจากเป้าหมายด้านเศรษฐกิจ อาคารแห่งนี้ยังเชื่อใน The Spirit of Synergy ที่ต้องการให้พนักงาน บริษัทผู้เช่าทุกคนให้ทำงานอย่างมีความสุข สร้างความสำเร็จร่วมกันเพื่อสร้างโอกาสทางการเติบโตของธุรกิจที่มากกว่า และความยั่งยืนให้แก่ประเทศไทย”
คุณประเมศฐ์ ฤทธิพรพสิษฐ์ ผู้อำนวยการก่อสร้างโครงการคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ กล่าวว่า “ปัจจุบัน คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ เริ่มดำเนินการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 80% และคาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2567 นี้ ซึ่งถือว่าไปได้เร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ โดยคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ มีความพร้อมและมั่นใจในการต้อนรับผู้เช่าทุกคนสู่บ้านหลังใหม่ ที่มีความครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การทำงาน ตั้งแต่เรื่องของสิ่งแวดล้อม การอำนวยความสะดวก มาตรฐานความปลอดภัย ไปจนถึงเรื่องของการเดินทางสำหรับพนักงานและบริษัทต่างๆ”
ด้านคุณชาติ จันทร์วิจิตร ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “กว่า 55 ปีของไลอ้อนฯ ซึ่งมีออฟฟิศตั้งอยู่ในย่านพระราม 3 (สาธุประดิษฐ์) มาตลอด วันนี้เราพร้อมและภูมิใจที่จะขยับขยายสู่บ้านหลังใหญ่ที่สูงตระหง่าน โดยหลังจากปลายปี 2567 พนักงานกว่า 300 ชีวิตมาทำงานที่บ้านหลังใหม่แห่งนี้ ซึ่งจะเป็น milestone สำคัญที่จะยกระดับการใช้ชีวิตการทำงานของพนักงานของบริษัท การสร้างความเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจ และใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน และมั่นใจว่าอาคารแห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่ง Iconic Landmark แห่งใหม่ที่ช่วยสร้างความคึกคัก และเศรษฐกิจย่านพระราม 3 รองรับผู้เช่าและนักลงทุนทั้งไทย-เทศได้เป็นอย่างดี”
ความพิเศษของคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานอัจฉริยะ (Smart Building) ที่ผู้เช่าสามารถเข้าถึงข้อมูลผ่าน Smart Dashboard และ Application ได้ และลิฟต์ภายในอาคารจอดรถยังใช้ระบบ Hologram ที่แรกในประเทศไทย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดการออกแบบที่เป็นสถาปัตยกรรมเคียงคู่สะพานภูมิพล คือ“กลมกลืน” ไปกับบริบทและความงดงามของสะพาน
อีกความพิเศษของคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ คือการสร้างอาคารที่ใส่ใจผู้คนที่อาศัยอยู่ในอาคาร และดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม โดยมีการติดตั้ง Façade รอบอาคารที่มีระยะปรับตามระดับแสงแดดที่ส่องถึง เพื่อให้เป็นร่มเงาให้ตึก ลดความร้อนที่เข้ามาในตัวอาคาร ทำให้พนักงานสามารถนั่งทำงานริมกระจกได้โดยไม่รู้สึกร้อน นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยลดการใช้แอร์และปล่อยความร้อนออกจากตัวอาคารน้อยลง
ภายในอาคารติดตั้งระบบกรองอากาศประสิทธิภาพสูง สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 และกรองฝุ่นละอองขนาด 0.3 micron ได้ถึง 90% นอกจากนี้ ยังฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียทางอากาศด้วยระบบ UV-C การันตีด้วยมาตรฐานสากลต่างๆ เช่น WiredScore Platinum (Pre-certified), LEED, Fitwel ระดับสูงสุด 3 ดาว ประเภท Multi-Tenant Base Building อาคารแรกในไทยและในเอเชีย เพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคารระดับสากล และเป็นโครงการต้นแบบอาคารอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ตามหลัก CECI หรือกลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งเป็นการสร้างความสุขให้ผู้อยู่อาศัย และใส่ใจสิ่งแวดล้อมโดยรอบเป็นการสร้างความสุข และรอยยิ้มให้ทุกคนได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
นอกจากอาคารให้เช่าที่มีพื้นที่รวมทั้งสำนักงานและร้านค้ากว่า 40,000 ตารางเมตรแล้ว ภายในยังมีศูนย์อาหารคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ที่ “อร่อย สะอาด ราคาไม่แพง” ให้พนักงานทุกคนได้รับประทานอาหารไปพร้อมกับชมวิวสะพาน และร้านอาหารหลากหลายที่คัดสรรมาแล้วว่าอร่อย ไว้คอยอำนวยความสะดวกพนักงาน ลูกค้า ตั้งแต่มื้อเช้า กลางวัน ไปจนถึงมื้อเย็น นอกจากนี้ ยังมีการจัดเชฟมีฝีมือ และพาร์ตเนอร์ในเครือหรือพาร์ตเนอร์ต่างๆ หมุนเวียนกันเข้ามาบริการอาหาร ให้สามารถเลือกรับประทานได้ตลอดทั้งวัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพพนักงานที่อยู่ภายในอาคารให้ได้รับประทานอาหารที่อร่อยสะอาด และมีคุณภาพตลอดเวลา เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคาร และยังมีร้านค้า และบริการต่างๆ ภายในอีกด้วย
ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและเตรียมพร้อมในการเดินทางแก่พนักงานและผู้เช่าทุกคน คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ ได้มีการจัดบริการ EV Shuttle Bus เพื่ออำนวยความสะดวกทุกวัน โดยสามารถเดินทางจากรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มายังอาคารคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ โดยใช้เวลาเพียงประมาณ 15 นาที นอกจากนี้ ด้วยการเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็ยังสะดวกสบายโดยใช้เวลาเพียง 15 นาที ไปยังย่านธุรกิจสาทร และพระราม 4 และ 5 นาทีเดินทางไปยังทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนศรีรัช และยังติดกับ BRT วัดด่าน
“คิงบริดจ์ ทาวเวอร์” ได้รับการออกแบบผ่านแนวคิดการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ The Spirit of Synergy ในการสร้างสรรค์พื้นที่ทุกตารางนิ้ว ให้ทุกคน “อยู่แล้วยิ้ม” จนได้รับรางวัล Fitwel มาตรฐานระดับโลกสูงสุด 3 ดาว ประเภท Multi-Tenant Base Building อาคารแรกในไทยและเอเชีย เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคาร และยังคว้ารางวัล THE WINNER ทั้งหมด 3 รางวัล จากเวทีอันทรงเกียรติ Property Guru Asia Property Awards 2023 ซึ่งเป็นการมอบรางวัลให้แก่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการ การออกแบบที่ยอดเยี่ยม และดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ถือเป็นบทพิสูจน์ผลงานที่ได้รับการยอมรับในระดับมาตรฐานนานาชาติ ได้แก่ Best Office Development, Best Office Interior Design และ Best Office Architectural Design