นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ที่ระดับ 36.40-37.10 บาท/ดอลลาร์ และกรอบเงินบาทวันนี้ (7 พ.ค.) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.85 บาท/ดอลลาร์จากระดับเปิดเช้านี้ที่ 36.76 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 36.80 บาทต่อดอลลาร์ (ระดับปิด ณ 17.00 น. วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม) โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (และช่วงวันหยุดพิเศษของตลาดการเงินไทย) เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนพอสมควร (แกว่งตัวในกรอบ 36.50-36.86 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วทดสอบโซน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ หลังผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดและกลับมาคาดการณ์ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ จากรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าคาด
อย่างไรก็ดี เงินบาทไม่ได้แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องและทยอยอ่อนค่าลงจากโซน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ตามแรงซื้อเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาดช่วงเงินบาทแข็งค่าขึ้น รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวหลังรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ส่วนเงินดอลลาร์ทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้างตามการทยอยอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) อย่างไรก็ดี โดยรวมเงินบาทยังคงแกว่งตัว sideways ใกล้โซน 36.70-36.80 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เล่นในตลาดกลับมาเชื่อว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ออกมาแย่กว่าคาด นอกจากนี้ การประชุมเฟดล่าสุด ทางเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณในเชิง hawkish ไปมากอย่างที่ตลาดกังวล
สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่าควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และควรจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทโมเมนตัมฝั่งอ่อนค่าได้แผ่วลง ทำให้เรามองว่าเงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ทว่าปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่ายังมีอยู่ ทั้งโฟลว์จ่ายเงินปันผลให้นักลงทุนต่างชาติ รวมถึงแรงซื้อเงินดอลลาร์ในจังหวะเงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่วนฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติอาจเดินหน้าทยอยซื้อสินทรัพย์ไทยเพิ่มเติม ลดแรงกดดันต่อเงินบาท ทั้งนี้ ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ เงินปอนด์อังกฤษและเงินหยวนจีนที่อาจส่งผลกระทบต่อทิศทางเงินบาทได้ในช่วงนี้
นอกจากนี้ เราประเมินว่าโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้นักลงทุนต่างชาติที่จะสูงราว 1.3 หมื่นล้านบาทในสัปดาห์นี้ อาจเป็นปัจจัยที่กดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้ ทั้งนี้ ควรจับตารายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และระวังความผันผวนในตลาดการเงินไทย หากผู้เล่นในตลาดต่างกังวลปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยกับธนาคารแห่งประเทศไทย
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่าเงินดอลลาร์อาจแกว่งตัว sideways แต่เงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้น หาก BOE ส่งสัญญาณพร้อมทยอยลดดอกเบี้ยได้เร็วกว่าคาด เช่น ลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายน หรือในกรณีที่บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดอาจย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ย (ระวังการออกมาสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย)