บริษัท venture capital มองว่ามีมคอยน์เป็นภัยคุกคามต่อความน่าเชื่อถือของ Crypto? ซึ่งในตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีมคอยน์ที่มีการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างรวดเร็วมักได้รับความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์เป็นพิเศษ
ผู้บริหารระดับสูงของ Andreessen Horowitz (a16z) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนชั้นนำ ได้หยิบยกข้อกังวลเกี่ยวกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับโทเค็นเหล่านี้ที่อาจสร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือของภาคคริปโตในวงกว้าง
เอ็ดดี้ ลาซซาริน CTO ของ a16z บริษัทร่วมทุนกล่าวเน้นย้ำถึงความเสี่ยงและความกังวลของมีมคอยน์ต่อความสมบูรณ์ของ Crypto ผ่านทาง X ว่า ปรากฏการณ์มีมคอยน์เปรียบเหมือนกับ “คาสิโนที่มีความเสี่ยง” และมันเกี่ยวกับอิทธิพลต่อแนวโน้มการยอมรับที่มีต่อมุมมองด้านกฎระเบียบ และกิจกรรมของนักพัฒนาภายในพื้นที่คริปโต ซึ่ง ลาซซาริน พยายามออกมากระตุ้นให้ชุมชนคริปโตตระหนักถึงข้อผิดพลาดและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
“ฉันเห็นความเสียหายทุกวัน” ลาซซารินกล่าว
แม้จะมีเรื่องราวความสำเร็จทางการเงินเป็นครั้งคราว เช่น Dogwifhat (WIF) และ Bonk (BONK) ซึ่งให้ผลตอบแทนที่น่าตกใจแต่ลาซซาริน เตือนว่าเสน่ห์ของมีมคอยน์อาจหันเหความสนใจไปจากเป้าหมายพื้นฐานของสกุลเงินดิจิทัล เขาวิพากษ์วิจารณ์แนวโน้มของโทเค็นดังกล่าวในการจัดลำดับความสำคัญของการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยมีมมากกว่าความก้าวหน้าทางเทคนิคที่สำคัญหรือยูทิลิตี้การทำงาน
มุมมองจากผู้บริหารของ a16z นี้ตอกย้ำข้อถกเถียงที่เพิ่มมากขึ้นภายในชุมชนคริปโต ในขณะที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์และนักลงทุนบางรายยอมรับความผันผวนสูงและมูลค่าความบันเทิงของ memecoins แต่คนอื่นๆ ก็มีความเข้าใจเช่นเดียวกับ ซึ่ง ลาซซาริน มองว่าพวกเขากังวลว่าลักษณะเล็กน้อยของมีมคอยน์อาจกระตุ้นให้หน่วยงานกำกับดูแล บังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งอาจขัดขวางนวัตกรรมและการเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโต
ในทางกลับกันมุมมอง แตกต่างออกไปของผู้เล่นในอุตสาหกรรมรายอื่น เช่น เจสซี่ วอลเดนต์ จาก Variant ซึ่งเป็นบริษัท VC ที่เน้นการพัฒนาฟินเทคและลงทุนคริปโต โดยวอลเดนต์ ให้เหตุผลว่ามีมคอยน์ ที่สร้างความผันผวนและเน้นไปในความบันเทิงเป็นหลัก อาจไม่เป็นอันตรายเท่าที่แนะนำ นอกจากนี้ วอลเดนต์ ยังบอกเป็นนัยยะว่าการเปิดกว้างขั้นพื้นฐานของพื้นที่คริปโต และธรรมชาติที่ขับเคลื่อนตลาด ทำให้เกิดความสนใจของผู้เข้าร่วมที่หลากหลาย
“ฉันคิดว่ามันเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากว่ากำลังสร้างความเสียหายมากกว่าหรือไม่ ระหว่าง 1. โครงการที่มีแนวโน้มว่าจะใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเพื่อปกปิดแผนสภาพคล่องของโทเค็น หรือ 2. มีมคอยน์ที่ไม่ได้สร้างพันธะสัญญาอะไร นอกจากความผันผวนและเน้นความบันเทิง” วอลเดนต์กล่าว
นอกจากนี้ แม้ว่าเขาจะเตือนอย่างสิ้นเชิง แต่ลาซซารินยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรม โดยหวังว่าผลิตภัณฑ์และโปรโตคอลที่สำคัญจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าการเพิกเฉยต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากแนวโน้มการเข้าเก็งกำไรมีมคอยน์อย่างไร้ความยั้งคิด อาจเป็นอุปสรรคต่อผู้ก่อตั้งที่มีความสามารถ และกลายเป็นการชี้ช่องโหว่ด้วยการ มอบกระสุนปืนให้หน่วยงานกำกับดูแลลั่นไกสังหารผู้ประกอบธุรกิจคริปโต ด้วยการดำเนินการตามกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น
ทั้งนี้ความสุดโต่งทั้งแรงตึงเครียด และเสน่ห์อันน่าพิศวงของมีมคอยน์ ตลอดจนการแสวงหาโซลูชั่นคริปโตเชิงนวัตกรรมที่สำคัญ ถือเป็นเรื่องราวที่นักลงทุน นักพัฒนา และหน่วยงานกำกับดูแลจะยังคงจับตาดูอย่างใกล้ชิด