แม้ตลาดหลักทรัพย์จะสั่งใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย แต่หุ้นบริษัท ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ 24CS กลับถูกลากขึ้น สวนมาตรการดับความร้อนแรงของราคาหุ้น
ตลาดหลักทรัพย์ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายขั้นที่ 1 หุ้น 24CS โดยกำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสด หรือบัญชีแคชบาลานซ์ และห้ามคำนวณวงเงินซื้อขายหุ้น มีผลระหว่างวันที่ 29 เมษายนถึง 17 พฤษภาคมนี้ เนื่องจากราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน
นอกจากนั้น ยังสอบถามถึงพัฒนาการใดๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้น เนื่องจากการซื้อขายหุ้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากวันก่อนหน้า ซึ่ง 24CS ชี้แจงกลับมาว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาการลงทุนในบริษัทอื่น และกำลังศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อทำ Due Diligence โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2/2567
ส่วนมูลค่าที่จ่ายหรือได้รับเบื้องต้นไม่เกินจำนวน 243 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32.06 ของมูลค่าสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการ
ข้อมูลการลงทุนในบริษัทอื่นที่ 24CS แจ้งกลับมายังตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นข้อมูลที่กว้างเหมือนมหาสมุทร เพราะไม่รู้ว่าจะลงทุนในบริษัทอะไร เจรจากันไปถึงขั้นไหน จะมีการ Due Diligence กันจริงหรือไม่ ที่สุดจะลงทุนจริงหรือไม่
และผู้ถือหุ้น 24CS ได้รับผลตอบแทนที่ดีหรือไม่
การลงทุนในบริษัทอื่นของ 24CS แม้จะมีข้อมูลที่ยังอยู่ในข่ายเลื่อนลอยอยู่ ไม่มีสาระสำคัญที่จับต้องได้ และสุดท้ายอาจล้มเลิก จึงไม่ควรส่งผลต่อราคาหุ้น 24CS แต่อย่างใด
แต่ข่าวการลงทุนครั้งนี้น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้น 24CS ถูกลากขึ้นอย่างร้อนแรง ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา
และแม้จะถูกตลาดหลักทรัพย์สั่งใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย แต่ไม่อาจสยบความร้อนแรงของหุ้นได้ โดยเมื่อระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 30 เมษายน ราคาถูกลากขึ้นไปที่ 3.08 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอง 12 เดือน ก่อนอ่อนตัวลงมาปิดที่ 2.96 บาท เพิ่มขึ้น 12 สตางค์ มูลค่าซื้อขาย 85.81 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 17 เมษายน หุ้น 24CS ปิดที่ 1.55 บาท มูลค่าการซื้อขายไม่กี่ล้านบาท แต่หลังจากนั้นราคาขยับขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่หนาตาวันละนับ 100 ล้านบาท และในช่วง 9 วันทำการที่ผ่านมา ราคาหุ้นติดลบเพียงวันเดียว
ถ้าเทียบราคาปิดวันที่ 17 เมษายนที่ 1.55 บาท กับราคาปิดล่าสุดที่ 2.96 บาท ช่วง 9 วันทำการ หุ้น 24CS ปรับตัวขึ้น 1.41 บาท หรือปรับตัวขึ้น 90.96%
ไม่รู้ว่าแมลงเม่าบินเข้าไปเล่นกับ 24CS มากน้อยเพียงใด แต่ถ้าย้อนดูประวัติหุ้นตัวนี้ถือเป็นหุ้นที่มีความโชกโชน ถูกตลาดหลักทรัพย์ใช้มาตรการกำกับการซื้อขายนับไม่ถ้วน ตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาด MAI ในช่วงแรก และเป็นหุ้นที่สร้างหายนะให้นักลงทุนที่พลัดหลงเข้าไปเก็งกำไร
หุ้น 24CS เข้าซื้อขายในตลาด MAI เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 หลังจากนำหุ้นจำนวน 130 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนเป็นครั้งแรก ในราคาหุ้นละ 3.40 บาท จากราคาพาร์ 5 สตางค์
เข้าตลาดวันแรก หุ้น 24CS ถูกลากขึ้นชนเพดาน 200% โดยปิดที่ 10.20 บาท สูงกว่าราคาจอง 6.80 บาท และเคาะซื้อขายกันสนั่นหวั่นไหว 4,974.98 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณหุ้นที่ซื้อขายจำนวนรวม 559.74 ล้านหุ้น ทั้งที่นำหุ้นเสนอขายนักลงทุนเพียง 130 ล้านหุ้น
แต่เพียงวันที่ 2 ของการเข้าตลาด หุ้น 24CS ก็ออกลาย ถูกถล่มขายจนทรุดลงติดฟลอร์ โดยปิดที่ 7.15 บาท ลดลง 3.05 บาท นักเก็งกำไรที่แห่กันเข้าไปลุยหุ้น 24CS ในวันแรก หรือแห่เก็งกำไรในช่วงแรกที่เปิดการซื้อขายในวันที่ 2 บาดเจ็บหนักไปตามๆกัน
และหลังจากนั้นราคาทรุดลงมาตลอด จนลงมาต่ำสุดที่ 0.85 บาท
ไม่เพียงราคาหุ้นที่ถูกลากขึ้นร้อนแรงในวันแรกที่เข้าซื้อขาย จนดูเหมือนเป็นหุ้นดีเท่านั้น แต่ผลประกอบการ 24CS ยังดูเหมือนถูกเนรมิตกันขึ้น เพราะก่อนเข้าจดทะเบียน ทั้งยอดรายได้และผลกำไรดูพอไปได้ แต่เมื่อบรรลุเป้าหมาย นำหุ้นเข้ามาสูบเงินนักลงทุนแล้ว กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ “ลายออก”
เพราะผลประกอบการกลับทรุดเป็นขาดทุนในทันที
ปี 2564 ผลประกอบการ 24CS มีรายได้รวม 642.11 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 19.46 ล้านบาท ปี 2565 มีรายได้รวม 982.26 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 24.49 ล้านบาท แต่ปี 2566 หลังเข้าจดทะเบียน ผลประกอบการกลับทรุดลงอย่างน่าใจหาย รายได้รวมหดเหลือ 690.27 ล้านบาท และพลิกมาขาดทุน 45.07 ล้านบาท
24CS เป็นหุ้นที่มีประวัติอันตราย สร้างความเสียหายให้นักลงทุนมาตลอดนับตั้งแต่เข้าซื้อขาย ดังนั้น จึงไม่ควรเสี่ยงกับหุ้นตัวนี้ แม้จะมีเสียงเชียร์จากสื่อหุ้นบางสำนักก็ตาม
พฤติกรรมหุ้น 24CS ทั้งราคาที่ขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่เข้าซื้อขายวันแรก และผลประกอบการที่ทรุดฮวบ หลังเข้ามาสูบเงินนักลงทุนสำเร็จเสร็จสิ้น เป็นสิ่งที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์จะใช้เป็นกรณีศึกษา โดยตระหนักถึงการเลือกเฟ้นบริษัทจดทะเบียนที่ดีเข้าตลาดหุ้น
ไม่ใช่หลับหูหลับตาปล่อยหุ้นเน่าเข้ามาระดมทุนจากประชาชน ปล่อยหุ้นเน่าเข้ามาสร้างความเสียหายให้นักลงทุน จนเป็นวงจรอุบาทว์ที่ไม่จบไม่สิ้น