ฮ่องกงเปิดตัวกองทุน spot ETF ที่ลงทุนในบิตคอยน์และอีเธอเรียม 6 กองทุนรวดเมื่อวันอังคาร (30 เม.ย.) นับเป็นที่แรกในเอเชียที่เปิดทางให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเทรดคริปโตในราคาสปอต ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวนี้ยังส่งให้ฮ่องกงนำหน้าสิงคโปร์และดูไบไปอีกก้าวในการชิงตำแหน่งฮับสินทรัพย์เสมือน
กองทุน ETF ทั้ง 6 กองทุนออกโดยบริษัทจีน 3 แห่ง ได้แก่ ไชน่า แอสเส็ต แมเนจเมนต์, โบเซรา แอสเส็ต แมเนจเมนต์ และฮาร์เวสต์ โกลบัล อินเวสต์เมนต์ ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (SFC) ตั้งแต่เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทเหล่านี้แต่ละแห่งออกกองทุน spot bitcoin ETF และ spot ether ETF อย่างละ 1 กองทุน ซึ่งสามารถซื้อขายได้ด้วยดอลลาร์ฮ่องกงและดอลลาร์สหรัฐฯ โดยที่ไชน่า แอสเส็ต แมเนจเมนต์ยังได้รับอนุญาตให้ซื้อขายด้วยหยวนด้วย
กองทุน Crypto ETF ช่วยให้นักลงทุนสามารถรับรู้ความเคลื่อนไหวของราคาคริปโตโดยไม่ต้องครอบครองสินทรัพย์เสมือนเหล่านั้นโดยตรง
โจเซฟ ชาน ปลัดกระทรวงบริการทางการเงินของฮ่องกง ชี้ว่า กองทุนเหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ spot ETF ที่ลงทุนในสินทรัพย์เสมือนกลุ่มแรกๆ ในตลาดเอเชีย ซึ่งยืนยันสถานะของฮ่องกงในการเป็นผู้นำการพัฒนาสินทรัพย์เสมือนในภูมิภาคนี้
เขายังบอกอีกว่า รัฐบาลจะส่งข้อเสนอสร้างกลไกการให้ใบอนุญาตบริการซื้อขายสินทรัพย์เสมือนนอกตลาดหลักทรัพย์ให้รัฐสภาพิจารณาโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ราคา bitcoin ETF เหล่านี้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเกือบ 1.7% เมื่อปิดตลาดวันอังคาร ขณะที่ ether ETF ขยับลง 0.5%
ความเคลื่อนไหวของฮ่องกงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติการจัดตั้งกองทุน Bitcoin ETF ที่ผูกกับราคาบิตคอยน์แบบซื้อขายทันทีเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งช่วยให้นักลงทุนกระแสหลักเพิ่มบิตคอยน์ในพอร์ตได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดี SEC ยังไม่ได้อนุมัติกองทุน ether ETF แบบฮ่องกง
บริษัทวิเคราะห์สินทรัพย์ดิจิตอล ซีซีดาต้า คาดการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 เม.ย.) ว่า แม้กองทุน crypto ETF ของฮ่องกงอาจดึงดูดเม็ดเงินไม่มากเท่ากับ bitcoin ETF ในอเมริกา แต่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยังเชื่อว่า ความเคลื่อนไหวนี้จะส่งเสริมให้ประเทศอื่นๆ อนุมัติผลิตภัณฑ์นี้และส่งเสริมการยอมรับคริปโตในวงกว้างขึ้น
แอนโทนี เทรนเชฟ ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มเทรดคริปโต เน็กโซ ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีเมื่อวันอังคารว่า การเปิดตัวกองทุน ETF เหล่านี้ส่งให้ฮ่องกงนำหน้าสิงคโปร์และดูไบไปอีกก้าวในการชิงตำแหน่งฮับสินทรัพย์เสมือน
ทั้งนี้ ฮ่องกงพยายามช่วงชิงความได้เปรียบในการแข่งขันนี้มาตลอด โดยเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงประกาศว่า พร้อมแล้วที่จะอนุญาตให้นักลงทุนรายย่อยซื้อกองทุนที่ลงทุน 100% ในสินทรัพย์ดิจิตอลบางสกุล กระตุ้นให้ผู้จัดการกองทุนจำนวนมากพากันยื่นขอใบอนุญาต
นอกจากนั้น เทรนเชฟยังคาดว่า ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ อาจเป็นรายต่อไปที่จะอนุมัติผลิตภัณฑ์คล้ายกันนี้ในอีก 2 ปีข้างหน้า
ขณะเดียวกัน ฮั่น ตงหลี่ ซีอีโอฮาร์เวสต์ โกลบัล มองว่า ฮ่องกงอาจเป็นแซนด์บ็อกสำหรับจีนในการทดสอบการเทรดสินทรัพย์เสมือนที่ปัจจุบันยังถูกแบนในแผ่นดินใหญ่
