xs
xsm
sm
md
lg

ทีทีบีช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง-ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25%-มีผล16 พ.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% ต่อปี เป็นเวลา 6 เดือน ให้แก่ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อเอสเอ็มอี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2567 พร้อมเดินหน้าดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องภายใต้หลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending)

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต
กล่าวว่า ทีทีบี ตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวช้าและไม่ทั่วถึง ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งธนาคารเองไม่ได้นิ่งนอนใจและมีมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารมาโดยตลอด นอกเหนือจากมาตรการรวบหนี้และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อบุคคลที่เข้าข่ายเป็นหนี้เรื้อรัง (Persistent Debt) ตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย และเพื่อเป็นการบรรเทาภาระหนี้ของลูกค้ากลุ่มเปราะบางเพิ่มเติม ธนาคารจึงได้พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อปี สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย MRR, MLR และ MOR โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2567 - 15 พ.ย. 2567 เป็นระยะเวลา 6 เดือน

โดยลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่จะได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้แก่ 1. ลูกค้าสินเชื่อบ้าน ที่มีรายได้รวมเฉลี่ยต่อเดือน ไม่เกิน 30,000 บาท และมีวงเงินอนุมัติไม่เกิน 2 ล้านบาท และ 2. ลูกค้าสินเชื่อเอสเอ็มอี ที่มีรายได้ในปี พ.ศ. 2565 ไม่เกิน 30 ล้านบาท และมีวงเงินอนุมัติไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว จะไม่ครอบคลุมลูกค้าสินเชื่อบ้านและสินเชื่อเอสเอ็มอีที่ได้เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือเฉพาะรายกับธนาคารมาก่อนหน้า ซึ่งธนาคารเชื่อว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลง จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและลดภาระทางการเงินให้กับกลุ่มเปราะบางข้างต้นได้ ทั้งนี้ ธนาคารจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้อัตโนมัติโดยลูกค้าไม่ต้องลงทะเบียน และธนาคารจะดำเนินการส่ง SMS แจ้งกลุ่มลูกค้าที่ได้รับความช่วยเหลือรับทราบ

นอกจากนี้ ธนาคารยังคงเดินหน้าสนับสนุนลูกค้าสินเชื่อที่มีภาระหนี้หลายก้อนให้ทำการรวบหนี้ ผ่าน“บริการรวบหนี้เป็นก้อนเดียว” (ttb debt consolidation) ที่จะช่วยลูกค้าลดภาระดอกเบี้ย ลดค่างวดต่อเดือนให้ต่ำลง และเสริมสภาพคล่องทางการเงินไปพร้อมกัน สอดรับกับความต้องการของลูกค้าที่กำลังเผชิญกับปัญหาหนี้ในปัจจุบัน
กำลังโหลดความคิดเห็น