xs
xsm
sm
md
lg

SINO ตั้ง บ.ร่วมทุนขนส่งสินค้าทางทะเล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





‘ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น’ เดินหน้าแผนขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ร่วมลงนามกับพันธมิตรในมาเลเซีย ตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ Sino Worldwide Logistics SDN. BND ด้วยทุนจดทะเบียน 900,000 ริงกิตมาเลเซีย หรือ 7.07 ล้านบาท รับแผนขยายธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในประเทศมาเลเซีย ที่มีปริมาณขนส่งสินค้าสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มประเทศอาเซียนไปประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมตั้งเป้าให้บริการขนส่งสินค้า 2,000 ตู้ต่อปี


นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า บริษัทเร่งเดินหน้ายกระดับสู่ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน สอดรับกับแผนขยายธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ บนเส้นทางขนส่งสินค้าทางทะเลให้แก่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนที่ต้องการขนส่งสินค้าไปประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านรูปแบบความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในท้องถิ่นที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจ โดยล่าสุด บริษัทได้ลงนามกับ Mr. Lee Kwee Keong ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ Sino Worldwide Logistics SDN. BND ในประเทศมาเลเซีย ด้วยทุนจดทะเบียน 900,000 ริงกิตมาเลเซีย หรือ 7.07 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 26 เมษายน 2567) โดย SINO ถือหุ้นในสัดส่วน 51% เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในประเทศมาเลเซีย

ทั้งนี้ มาเลเซียถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เนื่องจากมีปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไปตลาดสหรัฐอเมริกาสูงเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคอาเซียน บริษัทจึงมองเห็นโอกาสที่จะร่วมมือกับพันธมิตร โดยนำความเชี่ยวชาญการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของ SINO ที่ชำนาญในเส้นทางขนส่งทางทะเลไปสหรัฐอเมริกา รวมถึงจุดแข็งด้านเครือข่ายพันธมิตรสายเดินเรือ เพื่อขยายการให้บริการแก่ผู้ประกอบการในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ต้องการส่งออกสินค้าจากประเทศมาเลเซียไปตลาดสหรัฐอเมริกา โดยวางเป้าหมายว่าจะมีปริมาณขนส่งสินค้าทางทะเลประมาณ 2,000 ตู้ จากการร่วมทุนดังกล่าว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลของ SINO ให้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 53,000 ตู้

นอกจากนี้ การร่วมทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรองรับการเติบโตของปริมาณการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยและมาเลเซียที่มีปริมาณการขนส่งสินค้าข้ามแดนเติบโตขึ้นในทุกปี ด้วยการนำเสนอบริการขนส่งสินค้าทางบกด้วยตู้คอนเนอร์แบบแห้งและตู้คอนเทนเนอร์ ISO Tank อีกด้วย

“เราวางเป้าหมายในการยกระดับศักยภาพการดำเนินธุรกิจสู่ผู้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน ผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยได้ตั้งบริษัทร่วมทุนในมาเลเซีย ซึ่งถือว่าเป็นประเทศแรกที่เราได้ขยายการลงทุน และยังมีแผนขยายธุรกิจไปประเทศเวียดนามและอินโดนีเซียต่อไป เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” นายนันท์มนัส กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น