xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยฟื้นตัวตามภูมิภาคปิด +7.94 จุด รับแรงหนุนจากหุ้นใหญ่-ความชัดเจนดิจิทัลวอลเล็ต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด +7.94 จุด นักวิเคราะห์เผยหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในทิศทางบวก สอดคล้องตลาดในภูมิภาค และฟื้นตัวต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังหลุดแนวรับไปลึกถึง 1,350 จุด อีกทั้งความขัดแย้งในตะวันออกกลางคลี่คลายลง ไม่ได้สร้างความกังวลภาคตลาดทุนมากนัก จากผลสะท้อนราคาทองคำที่ปรับลง และราคาน้ำมันเริ่มทรงตัว มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ แนวรับ 1,350 จุด แนวต้าน 1,365 และ 1,370 จุด แนะจับตา มาตรการใหม่ของ ตลท. ที่จะออกเกณฑ์กำกับดูแลการขายชอร์ตและโปรแกรมเทรดดิ้ง

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 23 เมษายน 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +7.94 จุด หรือ +0.59% โดยปิดตลาดที่ 1,357.46 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 46,656.12 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวก โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,362.53 จุด ในทิศทางตรงกันข้ามที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,353.35 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 363 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 182 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 107 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -3,616.22 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -85.84 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่านักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +2,231.91 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,470.15 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK (XD) มูลค่าการซื้อขาย 4,395.98 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
2.KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,178.80 ล้านบาท ปิดที่ 16.20 บาท ลดลง 0.40 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,849.28 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
4.TISCO มูลค่าการซื้อขาย 1,649.02 ล้านบาท ปิดที่ 99.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.BBL (XD) มูลค่าการซื้อขาย 1,516.61 ล้านบาท ปิดที่ 138.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCCปิดที่ 249.00บาท เพิ่มขึ้น 4.00บาท หรือ 1.63%
2.SAPPE ปิดที่ 93.50บาท เพิ่มขึ้น 3.00บาท หรือ 3.31%
3.BH ปิดที่ 227.00บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ0.89%
4.CENTELปิดที่ 45.25บาท เพิ่มขึ้น 1.25บาท หรือ 2.84%
5.CPALL ปิดที่ 56.75บาท เพิ่มขึ้น 1.25บาท หรือ 2.25%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BBL (XD) ปิดที่ 138.00 บาท ลดลง 4.00บาท หรือ 2.82%
2.SPALI ปิดที่ 19.90 บาท ลดลง 0.60บาท หรือ 2.93%
3.AEONTS (XD )ปิดที่ 156.00 บาท ลดลง 0.50บาท หรือ 0.32%
4.KTBปิดที่ 16.20 บาท ลดลง 0.40บาท หรือ 2.41%
5.BDMS ปิดที่ 28.00 บาท ลดลง 0.25บาท หรือ 0.88%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,842.29 จุด เพิ่มขึ้น 11.31 จุด หรือ 0.62% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 832.20 จุด เพิ่มขึ้น 4.54 จุด หรือ 0.55% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 390.07 จุด เพิ่มขึ้น 3.12 จุด หรือ 0.81%

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นสอดคล้องกับตลาดเอเชียส่วนใหญ่ เป็นการฟื้นตัวต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาลงไปลึกมากหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,350 จุด ขณะที่ประเด็นความขัดแย้งในตะวันออกกลางคลี่คลายลงหลังจากสถานการณ์ล่าสุดไม่ได้ขยายความรุนแรง สะท้อนจากราคาทองคำที่ปรับลงและราคาน้ำมันเริ่มทรงตัว สะท้อนเงินไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย

ขณะที่ปัจจัยในประเทศ การประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารในไตรมาส 1/67 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด รวมทั้งวันนี้ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) แจ้งงบดีกว่าคาดเช่นกัน เป็น Sentiment เชิงบวกให้กับตลาด นอกจากนี้ ภาพของการ Cover Short หุ้นขนาดใหญ่บางตัวทำให้ราคาหุ้นฟื้นกลับขึ้นมาและหนุนภาพรวมดัชนี

"แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งกรอบแคบ แนะติดตามตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประชุมมาตรการใหม่กำกับดูแลการขายชอร์ตและโปรแกรมเทรดดิ้ง หากเข้มงวดมากยิ่งขึ้นจะส่งผลให้หุ้นที่เคยถูกขายชอร์ตจะทำการ Cover Short ทั้งหมดและน่าจะทำให้ราคาหุ้นฟื้นกลับขึ้นมา โดยมองกรอบดัชนีแนวรับที่ 1,350 จุด และแนวต้านที่ 1,365 และ 1,370 จุด" นายศราวุธ กล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า ปัจจัยบวกบ่ายวันนี้นายกรัฐมนตรีแถลงว่าทุกพรรคร่วมรัฐบาลเห็นพ้องเดินหน้าโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” มองหนุนกำลังซื้อนับจากไตรมาส 4/67 ดีต่อภาคบริการและเศรษฐกิจไทย เปิด Upside ตลาดระยะถัดไป เน้นหุ้น Consumer ได้แก่ CPALL(TP-76) CPAXT(TP-39) BJC (TP-36) OSP(TP-31)


กำลังโหลดความคิดเห็น