ตลาดหุ้นเอเชียเปิดภาคเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (23 เม.ย.) ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้น และนักลงทุนจับตาตัวเลขกิจกรรมธุรกิจขั้นต้นจากออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอินเดีย
ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 37,797.06 จุด เพิ่มขึ้น 358.45 จุด หรือ +0.96% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 16,679.39 จุด เพิ่มขึ้น 167.7 จุด หรือ +1.02% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,038.61 จุด ลดลง 5.99 จุด หรือ -0.20%
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดลบเช้านี้ (23 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นจีน แม้ว่าธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 1 ปีและ 5 ปีเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) หลังจากที่ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
au Jibun Bank เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ (23 เม.ย.) ว่า กิจกรรมภาคการผลิตของญี่ปุ่นหดตัวแต่ขยับเข้าใกล้จุดที่จะมีการขยายตัวในเดือน เม.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตที่มีความสำคัญของญี่ปุ่นจะปรับตัวขึ้นในที่สุดหลังจากซบเซาติดต่อกันหลายเดือน
ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นจาก au Jibun Bank ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.9 ในเดือน เม.ย. จาก 48.2 ในเดือน มี.ค. ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11
ดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว ขณะที่ดัชนีสูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมการผลิตอยู่ในภาวะขยายตัว
อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน เม.ย.ขยับเข้าใกล้ภาวะขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่หดตัวในเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว
ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นขยับขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 54.6 ในเดือน เม.ย. ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. จาก 54.1 ในเดือน มี.ค. โดยดัชนีย่อยของธุรกิจใหม่ขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 10 เดือน ซึ่งหนุนการขยายตัวขั้นต้นของดัชนี PMI ภาคบริการ
ส่วนดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้น ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.6 ในเดือน เม.ย. ซึ่งเท่ากับระดับสูงสุดของเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว