xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ระดับ 37.06 ยังมีแรงกดดันจากฟันด์โฟลว์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย 
เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (23 เม.ย.) ที่ระดับ 37.06 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 37.00 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.95-37.15 บาท/ดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงเล็กน้อย (แกว่งตัวในช่วง 36.98-37.10 บาทต่อดอลลาร์) แม้ว่าโดยรวมเงินดอลลาร์จะแกว่งตัวในกรอบ Sideways ทว่า ความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่คลี่คลายลง ขณะที่ตลาดยังคงกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด กดดันให้ราคาทองคำปรับฐานลงหนักกว่า -1.2% หรือเกือบ -30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และการปรับตัวลดลงของราคาทองคำดังกล่าวมีส่วนกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว เนื่องจากในช่วงหลังผู้เล่นในตลาดต่างมีมุมมองเชิงบวกต่อทองคำและรอทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว (Buy on Dip) ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังถูกจำกัดในโซน 37.10 บาทต่อดอลลาร์ ตามแรงขายเงินดอลลาร์ รวมถึงการทยอยลดสถานะ Long USD (มองเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเทียบสกุลเงินหลัก) ของผู้เล่นในตลาดบางส่วน

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคการบริการ (Manufacturing and Services PMIs) ของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ทั้งสหรัฐฯ ยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาค รวมถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของบรรดาธนาคารกลางหลัก

นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) รวมถึงธนาคารกลางยุโรป (ECB)

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาททะลุโซนแนวต้าน 37.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้เปิดโอกาสให้เงินบาทสามารถผันผวนอ่อนค่าต่อทดสอบโซนแนวต้านถัดไป 37.10-37.15 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะในช่วงนี้ เงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้นักลงทุนต่างชาติ ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ยังมีโอกาสกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด จนทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งมองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด หรือเพิ่มโอกาสที่เฟดอาจไม่ลดดอกเบี้ยได้เลยในปีนี้ นอกจากนี้ การปรับฐานของราคาทองคำในช่วงคืนที่ผ่านมาอาจเปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาด (ที่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มราคาทองคำ) ทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวมีส่วนกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง

ทั้งนี้ เรามองว่าแรงขายเงินดอลลาร์และการทยอยขายทำกำไรสถานะ Long USD (มองเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ) ของผู้เล่นในตลาดอาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้บ้างในระยะสั้นนี้ นอกจากนี้ บรรยากาศในตลาดการเงินที่กลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นอาจช่วยหนุนให้นักลงทุนต่างชาติทยอยกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นไทยเพิ่มเติมได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม เรายังคงมองว่าผู้เล่นในตลาดยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามความเสี่ยงที่ทางการญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดค่าเงิน เพื่อหนุนให้เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะหากเงินเยนได้อ่อนค่าทะลุโซน 155 เยนต่อดอลลาร์
กำลังโหลดความคิดเห็น