xs
xsm
sm
md
lg

9 หุ้น SET100 ทำ NEW LOW ในรอบปีเหลืออัพไซด์อื้อ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังสงกรานต์ 2567 ตลาดหุ้นไทยดิ่งกราวรูด ดัชนี SET Index จาก 1,396.38จุด เหลือ 1,332.08 จุด (19 เม.ย.67) ลดลง 64.30จุด หรือ -4.60% หลายทรัพย์ปรับราคาลงอย่างหนัก เมื่อเจาะไปที่ ดัชนี SET100 บางหลักทรัพย์ทำราคาต่ำสุด(NEW LOW )ในรอบปีหรือหลายปีอีกด้วย ซึ่งหุ้นเหล่านี้ เหลืออัพไซด์จำนวนมากจากราคาเป้าหมาย ที่เป็นราคาเฉลี่ยที่จัดทำโดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และเผยแพร่ในเว็บไซด์ settrade

1.COM7 บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) 19 เม.ย.67 ปิด 17.20 บาททำ NEW LOW ในรอบปี ขณะราคาสูงสุดรอบ 1 ปี คือ 33.00 บาท, ราคาปัจจุบันเหลืออัพไซด์ 35.87% จากราคาเป้าหมาย 23.37 บาท,อัตราผลตอบแทนจากราคา YTDปี 67 คือ -27.73%,ผลตอบแทนราคารอบ 5 วันคือ -9.95%,อัตราเงินปันผลตอบแทนYTD ปี 67 คือ 4.07%, มาร์เก็ตแคปล่าสุด 41,279.97 ล้านบาท,ค่า P/E 14.36 เท่า

บล.เคจีไอประมาณการกำไร Q1/67 ลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ โดยฝ่ายวิจัยคาดรายงานกำไรใน Q1/67 อยู่ที่ 816 ล้านบาท (-6% YoY แต่ +22% QoQ) คิดเป็น 27% ของประมาณการกำไรเต็มปีของฝ่ายวิจัย กำไรลดลง YoY จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายและการหดตัวของอัตรากำไร (gross margin) ส่วนกำไรเติบโต QoQ เนื่องจากฐานกำไรที่ต่ำใน Q4/66

2.EA บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) 19 เม.ย.67 ปิด 30.25 บาททำ NEW LOW ในรอบปี ขณะราคาสูงสุดรอบ 1 ปี คือ 74.00 บาท, ราคาปัจจุบันเหลืออัพไซด์ 69.22% จากราคาเป้าหมาย 51.19 บาท,อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD ปี 67 คือ -31.64%,ผลตอบแทนราคารอบ 5 วันคือ -14.18%,อัตราเงินปันผลตอบแทนYTD ปี 67 คือ 0.99%, มาร์เก็ตแคปล่าสุด 112,832.50 ล้านบาท,ค่าP/E 14.77 เท่า

บล.บียอนด์ ระบุว่า หุ้น EA จะกลับมาสู่เส้นทางการเติบโตที่มั่นคง หลังจากเผชิญช่วงผลประกอบการน่าผิดหวังในปี 65-66 เนื่องจากหยุดชะงักของคำสั่งซื้อรถโดยสารไฟฟ้าของไทยสมายล์และไทยสมาร์ทบัส จำนวน 3,000 คัน ตอนนี้เรากลับมามั่นใจว่าการเติบโตของกำไรสุทธิของ EA จะกลับมาสู่ช่วงเติบโตโดดเด่นอีก

3.HMPRO บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) 19 เม.ย.67 ทำ NEW LOW รอบ 1 ปี ที่ราคา 10.10 บาทก่อนปิด 10.20 บาท ขณะราคาสูงสุดรอบปี คือ 14.70 บาท, ราคาปัจจุบันเหลืออัพไซด์ 44.12% จากราคาเป้าหมาย 14.17 บาท,อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD ปี 67 คือ -12.82%,ผลตอบแทนราคารอบ 5 วันคือ -4.67%,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 3.92%, มาร์เก็ตแคปล่าสุด 134,142.22 ล้านบาท,ค่า P/E 20.82 เท่า

บล.กรุงศรี พัฒนสิน มองว่า แม้กำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 อาจยังเติบโตไม่มาก แต่ทิศทางยอดขายมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีมากในช่วงครึ่งปีหลังจากกำลังซื้อที่ได้แรงหนุนจาก Digital Wallet และการใช้จ่ายของภาครัฐ นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายสาขาในปีนี้ต่อเนื่อง ประกอบกับราคาหุ้นยังมี Upside

4.SCC บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) 19 เม.ย.67 ทำ NEW LOW รอบ 1 ปี ที่ราคา 241.00 บาท ก่อนปิด 242.00 บาท ขณะราคาสูงสุดรอบ 1 ปี คือ 340.00 บาท, ราคาปัจจุบันเหลืออัพไซด์ 24.10% จากราคาเป้าหมาย 300.33 บาท,อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD ปี 67 คือ -20.92%,ผลตอบแทนราคารอบ5วันคือ -6.56%, อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 2.48%, มาร์เก็ตแคปล่าสุด 290,400.00 ล้านบาท,ค่า P/E 11.21 เท่า

บล.ทรีนีตี้ คาดกำไร Q1/67 ที่ 1.7 พันล้านบาท พลิกบวกจาก Q4/66 ที่ขาดทุน 1.1 พันล้านบาท ที่ปรับลดลง YoY เนื่องจาก Q1/67 มีกำไรจากเงินลงทุนใน SJWD และ Q4/66 มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของโรงงานซีเมนต์ในเมียนมาคาดแนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมีจะฟื้นในช่วง 2H67

5.BCPG บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) 19 เม.ย.67 ปิด 6.25 บาททำ NEW LOW ในรอบปี ขณะราคาสูงสุดรอบ 1 ปี คือ 10.60 บาท, ราคาปัจจุบันเหลืออัพไซด์ 45.44% จากราคาเป้าหมาย 9.09 บาท,อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD ปี 67 คือ -28.98%,ผลตอบแทนราคารอบ 5 วันคือ -10.71%,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTDปี 67 คือ 3.95%, มาร์เก็ตแคปล่าสุด 18,723.50 ล้านบาท,ค่า P/E 16.96 เท่า

โบรกคาดปี 2567 จะฟื้นตัว หนุนโดยการรับรู้กำไรจากโครงการที่เข้าลงทุนจำนวนมาก น่าจะช่วยบรรเทาแรงกดดันจากการสิ้นสุด Adder ได้ โดยในประเทศลาว โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ปิดเพื่อซ่อมบำรุง ได้กลับมาดำเนินงานตามปกติ ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรหลักปี 2567 ที่ 2.1 พันล้านบาท เติบโต 90% YoY

6.BYD บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) 19 เม.ย.67 ปิด 3.02 บาททำ NEW LOW ในรอบปี ขณะราคาสูงสุดรอบปี 1 คือ 9.55 บาท, ไม่มีราคาเป้าหมาย,อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD ปี 67 คือ -33.19%,ผลตอบแทนราคารอบ 5 วันคือ -14.20%, อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ -%, มาร์เก็ตแคปล่าสุด 15,252.11 ล้านบาท,ค่า P/E -เท่า,

โบรก คาดผลประกอบการของ BYD มีโอกาสที่จะปรับตัวดีขึ้นในปีหน้าจากธุรกิจหลักทรัพย์แต่ยังมีความไม่แน่นอนในการทำกำไรของธุรกิจรถบัสไฟฟ้า

7.ADVANC บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) 19 เม.ย.67 ทำ NEW LOW รอบ 1 ปี ที่ราคา 193.00 บาท ก่อนปิด 195.50 บาท ขณะราคาสูงสุดรอบปี คือ 231.00 บาท, ราคาปัจจุบันเหลืออัพไซด์ 30.35% จากราคาเป้าหมาย 254.83 บาท,อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD ปี 67 คือ -9.91%,ผลตอบแทนราคารอบ 5 วันคือ -5.56%,อัตราเงินปันผลตอบแทนYTD ปี 67 คือ 4.40%, มาร์เก็ตแคปล่าสุด 581,458.00 ล้านบาท,ค่า P/E 19.99 เท่า

โบรกคาดกําไรไตรมาส 1/67 ที่ 7 พันล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่เติบโต 4.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกําไรที่ฟื้นตัวช้าน่าจะมีสาเหตุมาจากต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับ ทริปเปิลทีบรอดแบนด์ (TTTBB) ต้นทุนการให้บริการน่าจะเติบโตสู่ 1.0 หมื่นล้านบาท ค่าเสื่อมราคาก็น่าจะเพิ่มขึ้นสู่ 1.41 หมื่นล้านบาท

8.EGCO บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) 19 เม.ย.67 ทำ NEW LOW รอบ 1 ปี ที่ราคา 108.50 บาท ก่อนปิด 109.50 บาท ขณะราคาสูงสุดรอบปี คือ 161.50 บาท, ราคาปัจจุบันเหลืออัพไซด์ 26.67% จากราคาเป้าหมาย 138.70 บาท, อัตราผลตอบแทนจากราคา YTD ปี 67 คือ -14.45%,ผลตอบแทนราคารอบ 5 วันคือ -4.78%,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 5.94%, มาร์เก็ตแคปล่าสุด 57,647.92 ล้านบาท,ค่า P/E- เท่า

ผู้บริหารคาด ปี 2567 EGCO Group มุ่งมั่นแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง และคาดว่าจะมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตจากการรับรู้รายได้เต็มปีจากโครงการที่เข้าลงทุนในปี 2556 ได้แก่ โรงไฟฟ้า RISEC กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass บริษัทโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค CDI รวมถึงรับรู้รายได้เพิ่มจากการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า EGCO Cogeneration

9.JMT บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) 19 เม.ย.67 ทำ NEW LOW รอบ 1 ปี ที่ราคา 20.20 บาท ก่อนปิด 20.30 บาท ขณะราคาสูงสุดรอบปี คือ 50.00 บาท, ราคาปัจจุบันเหลืออัพไซด์ 72.90% จากราคาเป้าหมาย 35.10 บาท,อัตราผลตอบแทนจากราคา YTDปี 67 คือ -20.39%,ผลตอบแทนราคารอบ 5 วัน คือ -10.57%,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 4.09%, มาร์เกตแคปล่าสุด 29,632.71 ล้านบาท,ค่า P/E 14.74 เท่า

บล.บัวหลวง ระบุว่า JMT ตั้งเป้ากำไรสุทธิปี 67 จะเติบโตและขึ้นทำ New high ต่อเนื่อง จากธุรกิจบริหารหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน โดยล่าสุด JMT และ JK AMC มีหนี้บริหาร ทั้งสิ้น 5.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 97% YoY ซึ่งชดเชยผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวค่อนข้างช้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อลูกหนี้บางส่วนไปได้

อย่างไรก็ตาม น่าติดตามว่า หุ้นเหล่านี้ที่ถือว่าเป็นหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีสตอรี่ของตนเอง จะมีปัจจัยบวกเพื่้อหนุนให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้หรือไม่ หรือยังไหลไม่หยุดและทำ NEW LOW อีกหรือไม่?


กำลังโหลดความคิดเห็น