กลุ่มนักวิเคราะห์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีในวันนี้ (15 เม.ย.) ว่า ราคาน้ำมันอาจพุ่งเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือสูงกว่านั้น หลังอิหร่านปฏิบัติการโจมตีตอบโต้อิสราเอล ซึ่งจุดประกายความกังวลว่าจะเกิดสงครามในภูมิภาค
ทั้งนี้ กลุ่มนักวิเคราะห์ระบุว่า อิหร่านมีแหล่งทรัพยากรน้ำมันอันมหาศาล และเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของกลุ่มโอเปก ดังนั้น หากขีดความสามารถของอิหร่านในการจัดหาน้ำมันให้ตลาดโลกหยุดชะงัก อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นได้
นอกจากนี้ ตลาดจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดในโลก และคั่นกลางระหว่างประเทศโอมานและอิหร่าน โดยถูกใช้เป็นช่องทางขนส่งน้ำมันในอัตราส่วน 1 ใน 5 ของปริมาณการผลิตน้ำมันทั่วโลกในแต่ละวัน
"การโจมตีใดๆ ต่อการผลิตหรือส่งออกน้ำมันในอิหร่านจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะลุ 100 ดอลลาร์ และการปิดช่องแคบฮอร์มุซจะหนุนราคาแตะ 120-130 ดอลลาร์" แอนดี ลิโปว์ ประธานบริษัทลิโปว์ ออย ระบุ
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันซื้อขายปรับตัวลดลงเล็กน้อยในตลาดเอเชียช่วงเช้าของวันนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 0.31% แตะ 90.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ของสหรัฐฯ ลดลง 0.44% สู่ระดับ 85.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล