น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เผยเงินบาทวันนี้ (11 เม.ย.) ปิดตลาดที่ระดับ 36.57 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.37 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ เงินบาทมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่างวันอยู่ในช่วง 36.56-36.78 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงแรก ท่ามกลางแรงซื้อเงินดอลลาร์ หลังจากที่ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าที่คาด ซึ่งส่งผลทำให้ตลาดประเมินว่าการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดไม่น่าจะเกิดขึ้นเร็ว และบางส่วนเริ่มประเมินว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยไม่ถึง 3 ครั้งในปีนี้ อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงบ่าย (แต่ยังคงปิดตลาดที่ระดับอ่อนค่ากว่าระดับปิดวานนี้) ซึ่งอาจเป็นการปรับโพสิชันก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว และน่าจะมีแรงหนุนบางส่วนจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1816 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทยต่อเนื่องอีก 7,706 ล้านบาท
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์ถัดไป (17-19 เม.ย.) ประเมินเบื้องต้นไหว้ที่ 36.20-36.80 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก และรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกของ IMF ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก การเริ่มสร้างบ้าน การผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดขายบ้านมือสองเดือน มี.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือน เม.ย. รายงาน Beige Book ของเฟด และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเดือน มี.ค. ของอังกฤษ ยูโรโซน และญี่ปุ่น และตัวเลขเศรษฐกิจจีน เช่น จีดีพีไตรมาส 1/67 การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และอัตราการว่างงานเดือน มี.ค.