นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน มี.ค.67 อยู่ที่ระดับ 92.4 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 90 ในเดือน ก.พ.67 เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของดัชนีพบว่า ยอดขายโดยรวม คำสั่งซื้อโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นที่ปรับตัวสูงขึ้นมีปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศที่ทยอยฟื้นตัว สะท้อนจากความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าคงทน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง และได้รับอานิสงส์จากมาตรการวีซ่าฟรีในช่วงที่ผ่านมา
ในด้านการส่งออกขยายตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างสหรัฐฯ อินเดีย และออสเตรเลีย ขณะที่ในเดือน มี.ค. ผู้ประกอบการเร่งผลิตสินค้าก่อนวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังได้รับผลดีจากมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งให้กับภาคธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ยังทรงตัวสูง ส่งผลให้เศรษฐกิจในประเทศยังฟื้นตัวได้อย่างจำกัด นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนทางการเงิน และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ตลอดจนความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ทำให้การส่งออกยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่
ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ได้แก่
1.เสนอให้ภาครัฐดำเนินการตามแผนงานเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 2567 หลังจาก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ประกาศใช้ โดยเฉพาะการเบิกจ่ายงบลงทุนต่อเนื่องที่ยังค้างชำระและการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว
2.เสนอให้ภาครัฐเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้าไทยทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการ และสนับสนุน Soft Power รวมถึงการจัด Roadshow แสดงสินค้าในต่างประเทศ
3.ขอให้ภาครัฐดูแลเสถียรภาพของค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวน รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก รวมทั้งใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน