10X Research เผยผลการวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาเหรียญบิทคอยน์อาจพุ่งขึ้นไปถึง 80,000 ดอลลาร์ในช่วงรอยต่อ Bitcoin Halving เพื่อปรับระดับอัตราผลตอบแทนของกลุ่มธุรกิจเหมืองขุดคริปโตให้เหมาะสมหลังอุปทานลดลงตามรอบ
ตามการวิเคราะห์โดย 10x Research ระบุถึงปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์พุ่งสูงขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยรายงานการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้น และแนวทางการแก้ปัญหาเงินเฟ้อสหรัฐ ซึ่งผลักดันให้ราคาบิทคอยน์ล่าสุดขึ้นมาอยู่เหนือ 72000 ดอลล่าร์สหรัฐ/BTC ซึ่งการปรับเพิ่มขึ้นของราคาในลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมของบิทคอยน์เมื่อเร็ว ๆ นี้อาจทะลุตลาดกระทิงไปถึงระดับที่ $80,000 ดอลล่าร์สหรัฐ/BTC
มาร์คัส ทีเลน ผู้ก่อตั้ง 10X Research กล่าวว่า “หากการฝ่าวงล้อมเป็นภาวะกระทิงซึ่งเราสงสัยว่าบิทคอยน์อาจสามารถไต่ระดับขึ้นไปเหนือ 80,000 ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า และหากไม่สามารถทำได้หรือ การซื้อขายที่ราคา $69,280 และการตั้งค่าจุดหยุดขาดทุนที่ $65,000 ดูเหมือนจะเหมาะสม”
ทั้งนี้ บิทคอยน์ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 ตามมูลค่าตลาด อาจพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ในไม่ช้าหลังจากทะลุแนวต้านที่เรียกว่าสามเหลี่ยม ตามการวิเคราะห์ทางเทคนิคโดย 10x Research ซึ่งเปิดเผยล่าสุดว่าเพิ่มขึ้นเกิน $72,000 ผ่านรูปแบบการรวมสามเหลี่ยมที่ระบุโดยเส้นแนวต้านที่เชื่อมต่อจุดสูงสุดในวันที่ 15 มีนาคมถึง 27 มีนาคม และเส้นแนวรับที่เชื่อมต่อจุดต่ำสุดในวันที่ 20 มีนาคมถึง 3 เมษายน
"เป้าหมายขาขึ้นที่ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% จากราคาปัจจุบันที่ 72,300 ดอลลาร์"
ขณะที่การฝ่าวงล้อมนี้เกิดขึ้นนี้ เกิดขึ้นหลังจากรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ร้อนแรงเกินคาด ซึ่งเน้นย้ำถึงความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการรับความเสี่ยงในทุกด้านของตลาดการเงิน
อย่างไรก็ตาม ภาพสะท้อนของราคาบิทคอยน์สามารถอธิบายได้ว่าเป็น "แหล่งชุมนุมการลงทุนในทุกอย่างของโลกใหม่" ซึ่งในปีนี้ไม่เพียงแต่สกุลเงินดิจิทัล จะทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่เท่านั้น แต่ยังมีสินทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่น ดัชนีที่เน้นเทคโนโลยีของ Wall Street, Nasdaq, S&P 500 ที่ขยับตัวกว้างขึ้น และราคาทองคำที่มีราคาร้อนแรงขึ้นอย่างมากในประวัติศาสตร์ ทั้งนี้การฟื้นตัวของสกุลเงินดิจิทัล ได้รับการสนับสนุนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอุปทานของเหรียญ stablecoin หลัก
ทั้งนี้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค นักลงทุนและนักวิเคราะห์จะศึกษารูปแบบราคาเพื่อคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตของสินทรัพย์ สามเหลี่ยมสมมาตร มักเรียกว่าคอยล์ แสดงถึงการแข็งตัวของราคา ภายในช่วงราคาที่แคบลง โดยทั่วไปแล้วตลาดจะตึงตัวในระหว่างการควบรวมกิจการ ซึ่งท้ายที่สุดราคาจะอยู่ในจุดที่เหมาะสมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย อย่างไรก็ดีรูปสามเหลี่ยมสมมาตรจบลงด้วยการฝ่าวงล้อมราคาแบบกระทิง
