ใครที่ได้ดูคลิปการสนทนา หรือสัมภาษณ์ ระหว่างนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI กับนายพงศ์ธร ธารงไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS คงรู้สึกสะอิดสะเอียน อยากจะอาเจียนเหมือนกัน
คลิปชิ้นนี้เผยแพร่ในโลกโซเชียล และถูกนำไปเผยแพร่ในเฟซบุ๊กของ นายณวัฒน์ โดยเป็นการพูดถึงการที่ นายณวัฒน์ เข้าไปซื้อหุ้น บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY จำนวน 10 ล้านหุ้น หรือ 1.7% ของทุนจดทะเบียน ในราคาหุ้นละ 4.50 บาท
นายณวัฒน์อธิบายถึงผลประโยชน์จากช่องทางการตลาดที่จะได้รับจากการเข้าถือหุ้น SABUY ซึ่งเป็นการอธิบายโดยทั่วไป ไม่ได้เชียร์หุ้นตัวเองอะไรมากมาย แต่นายพงศ์ธร กลับทำตัวเหมือนเป็นลูกคู่ ลูกกระเดือกของนายณวัฒน์ เชียร์หุ้น MGI อย่างโจ่งแจ้ง เข้าข่ายชี้นำหุ้นชัดเจน
นายพงศ์ธร ระบุถึงการซื้อหุ้น SABUY จะทำให้ปีนี้ MGI กำไรโต 200% และย้ำหลายครั้งว่า “อย่าขายหมู”
นักลงทุนคนใดที่หลงเชื่อนายพงศ์ธร เข้าไปซื้อหุ้น MGI หรือไม่ยอมขายหุ้นทิ้งป่านนี้คงฉิบหายวายวอดไปแล้ว เพราะตั้งแต่มีข่าวนายณวัฒน์เข้าไปซื้อหุ้น SABUY หุ้น MGI ทรุดลงต่อเนื่อง จนสร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 2 เดือน
คนที่ไม่รู้จักนายพงศ์ธร คงมีคำถามว่า หมอนี่เป็นใครมาจากไหน เป็นนักวิเคราะห์ที่มีใบอนุญาตหรือไม่ ทำไมจึงเชียร์หุ้นอย่างโจ๋งครึ่ม โดยไม่ละอาย ไม่เกรงใจสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
นายพงศ์ธร มีเฟชบุ๊ก และมักจะทำตัวเป็นผู้รู้ พูดถึงหุ้นน้องใหม่ที่เข้ามาซื้อขายเสมอ โดยเฉพาะหุ้น MGI ซึ่งเชียร์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู
ไม่รู้ว่า นายพงศ์ธร มีส่วนได้เสียอะไรกับหุ้น MGI หรือไม่ แต่การเชียร์หุ้นดื้อๆ แบบด้านๆ ไม่เพียงเสี่ยงความผิดข้อหาชี้นำหุ้นแล้ว ยังเสี่ยงที่จะถูกนักลงทุนที่เสียหายเพราะเชื่อนายพงศ์ธร ฟ้องร้องดำเนินคดีได้
ก.ล.ต.น่าจะติดตามสอดส่องพฤติกรรมของนายพงศ์ธร โดยเฉพาะกรณีเชียร์หุ้น MGI ซึ่งเข้าข่ายพานักลงทุนไปตาย เพราะใครที่หลงเชื่อนายพงศ์ธร ไม่ขายหุ้น MGI ต้องขาดทุนยับเยิน
นายพงศ์ธร ทำตัวเป็นผู้รู้หุ้นคนอื่น แต่หุ้น PPS ของตัวเองกลับปล่อยให้ตกอยู่ในสภาพตายซาก ราคาย่ำอยู่ที่ 40 สตางค์เศษมาพักใหญ่แล้ว
PPS เข้าจดทะเบียนในตลาด MAI เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2565 หลังนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนเป็นครั้งแรกในราคาหุ้นละ 70 สตางค์ จากราคาพาร์ 25 สตางค์
นายพงศ์ธร เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ในสัดส่วน 8.78% ส่วนผลประกอบการ PPS ลุ่มๆ ดอนๆ ขาดทุนสลับกับมีกำไรในแต่ละปี โดยยอดขาดทุนหรือกำไรอยู่ในวงเงิน 20 ล้านบาทเศษ
แม้เป็นหุ้นขนาดเล็ก ผลประกอบการไม่โดดเด่น ราคาหุ้นเคลื่อนไหวราบเรียบ และไม่อยู่ในความสนใจนักลงทุนส่วนใหญ่ แต่จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยกลับมีจำนวนมากถึง 4,321 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 61.70% ของทุนจดทะเบียน โดยผู้ถือหุ้นรายย่อยน่าจะติดกับหุ้น PPS หรือติดดอยอยู่
ตั้งแต่หุ้น MGI เข้ามาซื้อขายเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 มีบรรดากองเชียร์เรียงหน้าออกมาเชียร์หุ้นตลอด เชียร์จนราคาหุ้นถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 65.25 บาท เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แต่หลังทุบสถิติราคาสูงสุดนับจากเข้าตลาด MAI แล้ว หุ้น MGI ก็ร่วงชนิดไม่มีหูรูด นักลงทุนที่หลงเสียงเชียร์ แห่เข้าไปลุยหุ้น MGI ล้มตายเป็นเบือ
กองเชียร์หุ้น MGI เป็นคนพานักลงทุนไปตายหมู่ โดยนายพงศ์ธรเป็นกองเชียร์คนล่าสุด