xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยปิดร่วง -3.77 จุด สวนแรงซื้อกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี-ค้าปลีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดร่วง -3.77 จุด สวนแรงซื้อเข้าหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี-ค้าปลีก นักวิเคราะห์ชี้ภาพดัชนีแกว่งกรอบสลับทั้งแดนบวกและลบ แต่ภาพรวมยังดีกว่าในภูมิภาค ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้กรอบแนวรับที่ 1,370 จุด และแนวต้านที่ 1,387 จุด แนะจับตาบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตอาจมีความชัดเจนขึ้นในสัปดาห์หน้า

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 3 เมษายน 2567 ปรับตัวลดลง -3.77 จุด หรือ -0.27% โดยปิดตลาดที่ 1,375.69 จุด มูลค่าซื้อขาย 41,843.43 ล้านบาท ขณะที่ ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีแกว่งตัวไซด์เวย์สลับทั้งแดนบวกและแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,384.17 จุด ในทิศทางกลับกันปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,374.26 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 115 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 167 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 377 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +1,590.15 ล้านบาท และ นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า +1,395.40 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -139.66 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -2,845.89 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,993.46 ล้านบาท ปิดที่ 157.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,486.31 ล้านบาท ปิดที่ 55.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3.KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,611.11 ล้านบาท ปิดที่ 16.40 บาท ลดลง 0.20 บาท
4.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,586.55 ล้านบาท ปิดที่ 112.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
5.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,488.16 ล้านบาท ปิดที่ 204.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่157.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.61%
2.CPALL ปิดที่ 55.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.85%
3.PTTGC ปิดที่41.00บาท เพิ่มขึ้น 0.75บาท หรือ 1.86%
4.PTT ปิดที่34.50บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาท หรือ 1.47%
5. CRC ปิดที่35.25บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาท หรือ 1.44%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่254.00บาท ลดลง 5.00บาท หรือ 1.93%
2.BH ปิดที่223.00บาท ลดลง 2.00บาท หรือ 0.89%
3.SCB ปิดที่112.50บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 1.32%
4.EGCO ปิดที่ 113.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ1.31%
5.BBL ปิดที่137.00บาท ลดลง -1.50บาท หรือ 1.08%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,869.41 จุด ลดลง -5.21 จุด หรือ -0.28% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 844.40 จุด ลดลง -1.41 จุด หรือ -0.17% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 400.53 จุด ลดลง -6.24 จุด หรือ -1.53%

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบแคบแต่ดีกว่าภูมิภาคเล็กน้อย โดยมีแรงซื้อในกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น จากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นหลังสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางขยายตัว และกลุ่มปิโตรเคมีที่มีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ตอบรับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค. ของจีนและสหรัฐออกมาดีกว่าคาด หนุน Sentiment บวกต่อหุ้น Commodity ขณะที่กลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นรอลุ้นสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ในวันที่ 10 เม.ย.คาดเห็นความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการดังกล่าว

"มองแนวโน้มตลาดในวันพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งกรอบแคบทิศทางคล้ายวันนี้ โดยประเด็นราคาน้ำมันคาดมีอัพไซด์น้อย และคืนนี้นักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยประเมินกรอบดัชนีแนวรับ 1,370 จุดและแนวต้าน 1,387 จุด" นายศราวุธ กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น