xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโผ 25 หุ้น Domestis Play รับเศรษฐกิจไทยเริ่มเดินหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเซียพลัส เปิดโผ 20 หุ้น Domestic Play ในกลุ่มส่งออก -ยาง - อาหารสัตว์ - รับเหมาฯ วัสดุฯ - เหล็ก -นิคมฯ และค้าปลีก รับสัญญาณเศรษฐกิจเริ่มเดินหน้า ทั้งงบประมาณปี 67 ที่จะเริ่มเบิกจ่ายต้นเดือน เม.ย. - การลงทุนภาคเอกชนเดินหน้า - ตัวเลขส่งออกโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 - การบริโภค ผ่านโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต และการขึ้นค่าแรง

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยว่า เริ่มเห็นสัญญาณบวกผ่านเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ ประกอบด้วย งบประมาณปี 2567 ที่คาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ต้นเดือน เม.ย. นี้ หลังผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา และเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งจะถือเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนภาครัฐ เป็นบวกต่อหุ้นวัสดุก่อสร้าง และรับเหมาฯ

ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน ซึ่งมีสัญาณบวกจากตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่แตะ 6.6 แสนล้านบาทในปี 2566 ที่จะกลายเป็น FDI ในอนาคต รวมถึงตัวเลขนักลงทุนที่แสดงความสนใจ หลังจากที่รัฐบาลได้ทำ ROADSHOW ใน 14 ประเทศ ช่วงที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะทำให้ตัวเลขการของรับ BOI เพิ่มขึ้นในอนาคต และการกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือน หนุนด้วยการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และ DIGITAL WALLET ที่กลับมาเดินหน้า องค์ประกอบดังกล่าวน่าจะส่งผลบวกต่อกำไร บจ. ในระยะต่อไป ซึ่งแรงหนุนจากเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ น่าจะดีต่อหุ้น Domestic Play

พาณิชย์ เผย ส่งออกโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 หนุนหุ้นส่งออก

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ประกาศตัวเลขส่งออก เดือน ก.พ. 67 +3.6%YOY ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 สอดคล้องกับการส่งออกในหลายๆ ประเทศในแถบเอเชีย นำโดยเวียดนามส่งออก ม.ค.67 เติบโต +42%, ไต้หวัน +18.1%, เกาหลีใต้ +18.0%, สิงคโปร์ 15.7% เป็นต้น

ขณะที่ตัวเลขนำเข้าเดือน ก.พ. 67 +3.2%YOY ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุลลดลงอยู่ที่ -554 ล้านเหรียญฯ (ดีกว่าคาด -573 ล้านเหรียญ) ซึ่งระยะถัดไป ลุ้นดุลบัญชีเดินสะพัด ก.พ.67 กลับมาเป็นบวก ตามการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปี

หากพิจารณาสินค้าส่งออกสำคัญของไทยที่เกี่ยวข้องกับรายชื่อบริษัทจดทะเบียน จะเห็นได้ว่าสินค้าที่เติบโตเด่น คือ ยางพารา +31.7%YOY เป็นบวกต่อ NER STA ,อาหารสัตว์เลี้ยง +21.5%YOY บวกต่อ ITC - ASIAN- AAI - CPF ,ทูน่ากระป๋อง +15%YOY บวกต่อ TU เป็นต้น

ขณะที่แนวโน้มภาคการส่งออกไทยในปี 2567 การส่งออกไทยยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าตาม ภาวะเงินเฟ้อโลกที่เริ่มชะลอตัว ส่วนความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางยังไม่ส่งผลกระทบทางตรงต่อไทยมากนัก แต่ส่งผลทางอ้อม คือ อัตราค่าระวางเรือจะเพิ่มสูงขึ้น โดยภาพรวมกระทรวงพาณิชย์ คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2567 จะโตราว 1%–2%YOY

สรุป ตัวเลขส่งออกไทย เดือน ก.พ.67 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 สอดคล้องกับการส่งออกในหลายๆ ประเทศในเอเชีย ขณะที่สินค้าส่งออกเด่น คือ ยางพารา +31.7%YOY บวกต่อ NER - STA ,อาหารสัตว์เลี้ยง +21.5%YOY บวกต่อ ITC - ASIAN - AAI- CPF ,ทูน่ากระป๋อง +15%YOY บวกต่อ TU เป็นต้น

งบฯปี67 เบิกจ่ายได้ หนุนหุ้นรับเหมาฯ วัสดุฯ - เหล็ก

ภาพเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำในช่วงปีที่ผ่านมา +1.9%YOY สะท้อนต้องการแรงกระตุ้นทั้งในส่วนของนโยบายการคลังที่เข้มข้น และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อหลีกหนีจากภาวะชะลอตัว สำหรับเศรษฐกิจภายในประเทศส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจีดีพีาปี 67 จะอยู่ที่บริเวณ 2.7 –2.8%YOY อย่างไรก็ดี บทบาทของนโยบายการคลังที่ทยอยเดินหน้า เชื่อว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้นในช่วง Q2/67 โดยมีแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยจากหลายภาคส่วน

การใช้จ่ายภาครัฐ (G) ผ่านการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท โดยการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 เฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของงบลงทุน น่าจะเห็นเม็ดเงินไหลเข้าระบบที่รวดเร็วกว่างวดอื่นๆ เนื่องจากมีช่วงระยะเวลาการเบิกจ่ายเพียง 6 เดือน (สิ้นปีงบประมาณ 30 ก.ย.2567) เฉพาะอย่างยิ่ง งบจ่ายลงทุน มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง CK - STEC - TTCL, วัสดุก่อสร้าง SCC - SCCC - TASCO รวมถึงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มเหล็ก BSBM - TMT - TSTH - INOX

การลงทุนตปท. (FDI) เดินหน้า หนุนหุ้นนิคมฯ

ด้านภาคการลงทุน (I) หลังจากรัฐบาลเดือนสายต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา พบปะกับนักลงทุนแล้วกว่า 60 บริษัท ใน 14 ประเทศ คาดเดินหน้าดึงการลงทุนใน 4 อุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์, อุตสาหกรรมดิจิทัล และสำนักงานภูมิภาคและโลจิสติกส์หวังให้มีเม็ดเงินไหลเข้า 5.58 แสนล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้การลงทุนขยายตัวอย่างมีนัยฯ หนุนให้การขอรับการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 8.7 แสนล้านบาท และส่งผลให้ FDP มีแนวโน้มเติบโตขึ้นตามลำดับ มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มนิคม อาทิ WHA - AMATA - PIN - ROJNA

หุ้นค้าปลีกเฮ รับ ดิจิทัล วอลเล็ต-ขึ้นค่าแรง

ส่วนภาคการบริโภค (C) โดยกระตุ้นผ่านนโยบายต่างๆ เริ่มจากโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งรอติดตามรายงานความคืบหน้า รวมถึงข้อเสนอการปรับปรุงแนวทางการดำเนินโครงการฯ ตลอดจนคณะกรรมการไตรภาคียังมีมติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท นำร่อง 10 จังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ 13 เม.ย. 67 ถือเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้กับประมาชาชน มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก อาทิ BJC - CBG- CRC -CPALL


กำลังโหลดความคิดเห็น