กลายเป็นประเด็นร้อนแรง ที่ติดเทรนบนทวิตเตอร์ในหมู่นักลงทุนคริปโต หลังจากที่สแกมเมอร์หัวใส ปลอมตัวเป็นนางแบบสาวสวย โพสต์บน X (ทวิตเตอร์เดิม) ในลักษณะเชื้อเชิญการเข้ามามีส่วนร่วม หรือลองใจป๋าใจถึงว่าจะมีเสี่ยน้อยเสี่ยใหญ่ ที่แฝงตัวอยู่ในทวิตเตอร์ผ่านเข้ามาติดอวนที่วางไว้บ้างมั้ย โดยการวางอุบายกลลวงด้วยการแปะที่อยู่กระเป๋า เพื่อให้เหยื่อโอนเหรียญคริปโตมาให้..........(แต่เบื้องหลังเบื้องลึก ไม่มีการระบุชัดเจนว่าจะมีการแลกเปลี่ยนอื่นๆ แบบ Exclusive เช่น ภาพ คลิป การนัดเดตแบบถึงเนื้อถึงตัว ฯลฯ เหมือนในแพล็ตฟอร์มออนไลน์ผู้ใหญ่อื่นๆหรือไม่)
จนแล้วจนรอด อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกคริปโต เมื่อมีหนุ่มใจป๋าคนหนึ่งหลงเข้าหลุมพรางที่พี่มิจฉาชีพขุดหลุมพรางเอาไว้ ด้วยการโอนเหรียญ Ethereum (ETH) จำนวน 5 ETH (หรือคิดเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยประมาณ 6 แสนบาท) เข้าไปยังที่อยู่ของกระเป๋าเงินเงินดิจิทัลปลายทางดังกล่าว พร้อมคอมเมนต์ตอบในลักษณะ "ป๋ารักหนูนะ จุ๊บๆ เอาไปกินหนม ไปเป็นทุนทำเทรดนะจ๊ะ"
งานนี้ทำชาวทวิตรีบแคป พร้อมทั้งกระจายข่าวไปยังชุมชนคริปโตในแพล็ตฟอร์มโซเชียลต่างๆว่า โดยหลายคนแตกประเด็นที่เกิดขึ้นมากมายว่า แท้จริงแล้วนางแบบสาวสวยในทวิตเตอร์ดังกล่าว อาจเป็นมิจฉาชีพสวมรอยเป็นเจ้าของตัวจริง หลอกลวงหนุ่มหื่นใจป๋าพร้อมเปย์ ที่หน้ามืดตามัวขาดความยับยั้งชั่งใจ สุดท้ายแล้วอาจซ้ำรอยกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศไทยบ่อยๆ ที่มีมิจฉาชีพปลอมโปรไฟล์สาวสวยสูบเงินเสี่ยนับแสนนับล้านบาท (บางคนสวยจริง แต่อาจไม่ตรงปกกับตัวจริงจากการแต่งรูปผ่านแอพพลิเคชั่น หรือมิจฉาชีพเทิร์นโปร ด้วยการใช้รูปโปรไฟล์ของนางแบบพริตตี้ ทั้งไทยหรือต่างประเทศ โดยหลอกลวงให้เหยื่อเชื่อใจ รัก ลวง หลง ในรูปแบบต่างๆเพื่อให้หลงเชื่อและยอมจ่ายเงิน เหมือนข่าวที่เคยเกิดขึ้นในรูปแบบเดียวกันก่อนหน้านี้
อ่านข่าวประกอบย้อนหลัง โปรแกรมเมอร์หนุ่มเสียท่า เปย์เงินให้สาว หลังเล่นแอปจับคู่ หมดเป็นแสนแขนไม่ได้จับ
ขณะที่ชุมชนนักขุดข้อมูล ได้ออกมาเปิดเผยที่มาที่ไปของข้อมูลนางแบบเซ็กซี่รายดังกล่าวว่า ตัวจริงของเธอนั้นมีชื่อใน X ว่า angelinanooor และภาพดังกล่าวก็ถูกเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมาตั้งแต่ปี 2566 แล้ว
ฟากชุมชนนักลงทุนคริปโตไทย ต่างก็มีการพูดคุยกันอย่างเผ็ดร้อนถึงประเด็นที่เกิดขึ้น บ้างว่า "เสียเป็นแสน....แขนไม่ได้จับ หรือ "เพราะความเง่นเป็นเหตุสังเกตได้" ซึ่งกลายเป็นอุทาหรณ์สำคัญที่ทุกคนต้องรู้เท่าทันมิจฉาชีพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ (ที่กุมอำนาจทางการเงิน) ที่ขาดภูมิคุ้มกัน ขาดลูกหลานคอยดูแลอย่างใกล้ชิด อาจถูกมิจฉาชีพในรูปแบบจิตวิทยาคลายเหงาเข้าสร้างความคุ้นเคย เชื่อใจ และหลอกสูบทรัพย์..........จนสิ้นเนื้อประดาตัวได้