xs
xsm
sm
md
lg

7 บจ.โดดลงตลาดรถ EV จีนชิงเค้กก้อนใหญ่งานมอเตอร์โชว์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แรงดีไม่มีตก! สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สัญชาติจีนที่แห่กันเข้ามาตีตลาดประเทศไทยจนสร้างปรากฏการณ์ยอดขายพุ่งสูงสุด และด้วยกระแสความนิยมของรถ EV ทำให้บริษัทจดทะเบียนไทยหลายรายโดดลงสนามชิงมาร์เกตแชร์ด้วยการแตกไลน์ธุรกิจออกมาเป็นตัวแทนจำหน่ายรถ EV

และในสัปดาห์หน้าจะมีงาน Motor Show 2024 ระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-7 เม.ย.67 เป็นปัจจัยหนุนสำคัญต่อยอดขายรถ EV ที่คาดว่าจะได้เห็นแคมเปญราคาโดนๆ หรือข้อเสนอต่างๆ ออกมาจากหลากหลายค่ายแข่งกันแย่งชิงกำลังซื้อ รวมทั้งจะมีการเปิดตัวรถ EV จากค่าย Xpeng ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่มีผู้เล่นรายใหญ่อย่าง PTT เข้ามาร่วมวงด้วย และค่ายรถ EV ชื่อดังจากเวียดนาม คือ วินฟาสต์ (Vinfast) เป็นต้น น่าจะหนุนภาพตลาด EV คึกคักต่อเนื่อง

*บจ.ไทย โดดเป็นดีลเลอร์ขายรถ EV จีน 7 บริษัท ประกอบด้วย

1.บมจ.ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ (ASAP) เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า CHANGAN

2.บมจ.ซัสโก้ (SUSCO) ตั้งบริษัทย่อย บริษัท ซัสโก้ บียอนด์ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD

3.บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) ตั้งบริษัท เสนา กรีน ออโตโมทีฟ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า NETA

4.บมจ.อาปิโก ไฮเทค (AH) ตั้งบริษัท เอเบิล อีวี จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าของ CHANGAN และ MG

5.บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) (MGC) จับมือบริษัท อรุณ พลัส จำกัด บริษัทย่อยของ บมจ.ปตท.(PTT) ตั้งบริษัทร่วมทุนในนามนีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด (Neo Mobility Asia) เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเสี่ยวเผิง (XPENG)

6.บมจ.คอมเซเว่น (COM7) ร่วมกับบริษัท GAC หรือ Guangzhou Automotive Group บริษัทผลิตรถสัญชาติจีน ก่อตั้งบริษัท Gold Integrate เพื่อจำหน่ายรถไฟฟ้า EV แบรนด์ GAC และ AION

7.บมจ.แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย (PLANET) ตั้งบริษัทย่อย บริษัท แพลนเน็ต อีวี จำกัด (PlanetEV) เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ SOKON

นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่า ด้วยมาตรการ EV 3.0 ของรัฐบาลในปีที่ผ่านมา ส่งผลบวกต่อยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และมาตรการ EV 3.5 ที่บังคับใช้ในช่วงปี 67-70 เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า จะส่งผลดีต่อยอดการผลิตรถยนต์ในระยะข้างหน้า

จากปัจจัยดังกล่าว ตามมาด้วยจำนวนดีลเลอร์ที่จะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับรถยนต์มาก่อน และดีลเลอร์รายเดิมของรถสันดาป (ICE) ก็เปลี่ยนโชว์รูมมาเป็นรถ EV ตลอดจนผู้เล่นหน้าใหม่ๆ จากหลายธุรกิจ สะท้อนเทรนด์ EV มีการเติบโต โดยได้ปัจจัยหนุนจากการเข้ามาผลิตและประกอบรถ EV ในประเทศมากขึ้นทำให้ราคาขายมีโอกาสต่ำลงมาในระดับที่จะจูงใจผู้บริโภคมากขึ้น

ณ สิ้นปี 66 ตลาดรถ EV มีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) อยู่ที่ 12% ของกลุ่ม Passenger Car ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่าจากปี 65 ที่อยู่ในระดับ 2% ขณะที่ปี 67 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาที่ 20% และปี 68 อยู่ที่ 30%

สำหรับยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า BEV นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-29 ก.พ.67 มีจำนวน 17,329 คัน จาก ณ สิ้นปี 66 มีจำนวน 76,366 คัน โดยคาดว่ายอดจดทะเบียนรถ EV มีแนวโน้มจะทะลุ 150,000 คันภายในสิ้นปีนี้ และอาจพุ่งสู่ระดับ 225,000 คันในปี 68


กำลังโหลดความคิดเห็น