xs
xsm
sm
md
lg

ดุสิต ฟู้ดส์ผนึก ‘ฟาร์ม ทู เพลท’ เปิดตัว ‘ปิ่นโตฮับ’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





‘ดุสิต ฟู้ดส์’ ผนึกความร่วมมือ ‘ฟาร์ม ทู เพลท’ เปิดตัว ‘ปิ่นโตฮับ’ ดึง ‘สตรีทฟูด’ เจ้าดังร่วมแพลตฟอร์มออนไลน์ ขยายโอกาสธุรกิจอาหารเอสเอ็มอีไทยสู่ตลาดโลก คาด ปี 2568 จะขยายจุดให้บริการ/สาขาผ่านช่องทางแฟรนไชส์ไปยังต่างจังหวัด โดยวางเป้าหมาย 50 จุดบริการ/สาขาในประเทศไทย ก่อนที่จะขยายแฟรนไชส์ “ปิ่นโตฮับ” ในต่างประเทศอีก 3-5 ปีข้างหน้า

กลุ่มดุสิตธานี หรือ DUSIT โดย “ดุสิต ฟู้ดส์” เดินหน้าขยายฐานธุรกิจอาหาร พร้อมสร้างซอฟต์เพาวเวอร์ให้อาหารไทย ด้วยการผนึกความร่วมมือกับ “ฟาร์ม ทู เพลท” เปิดตัว “ปิ่นโตฮับ” (PintoHub) ภายใต้การบริหารของบริษัท เซเวอร์ อีทส์ จำกัด (Savor Eats) บริษัทร่วมทุนที่ “ดุสิต ฟู้ดส์” ถือหุ้น 51% และฟาร์ม ทู เพลท โพรเซสเซอร์ ถือหุ้น 49% โดย “ปิ่นโตฮับ” จะให้บริการในรูปแบบแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมอาหาร “สตรีทฟูด” ชื่อดังของไทย พร้อมเสิร์ฟในรูปแบบอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน (ready to eat) ในรสชาติเดียวกับร้านดังต้นตำรับ โดยคงรสชาติ สุขอนามัย และสร้างมาตรฐานใหม่

สำหรับสตรีทฟูดของไทย ด้วยความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีของ “ฟาร์ม ทู เพลท” ตอกย้ำเป้าหมายของ “ดุสิต ฟู้ดส์” ที่จะนำอาหารไทยสู่ตลาดโลก (Bring Asian Food to The World) มั่นใจขยายโอกาสให้ธุรกิจอาหารเอสเอ็มอีไทยก้าวสู่ระดับสากล พร้อมประกาศความร่วมมือกับ “แกร็บ ฟู้ด” (Grab Food) เป็นช่องทางสั่งอาหารและส่งอาหารถึงหน้าบ้าน เผยเฟสแรกมีร้านอาหารดังเข้าร่วมแพลตฟอร์มแล้ว 21 ราย เช่น บ้านยี่สาร ข้าวพระรามลงสรงอาแปะ และก๋วยจั๊บกำลังภายใน เป็นต้น

น ส.มณิศา มิตรไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัท และบริษัท ฟาร์ม ทู เพลท โพรเซสเซอร์ จำกัด ได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัท เซเวอร์ อีทส์ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน (ready to eat) ด้วยสัดส่วนถือหุ้น 51% และ 49% ตามลำดับ ล่าสุด “เซเวอร์ อีทส์” พร้อมแล้วกับการเปิดตัวแพลตฟอร์มภายใต้ชื่อ “ปิ่นโตฮับ” (PintoHub) ที่จะรวบรวมร้านอาหารเจ้าดัง รวมถึงสตรีทฟูดของไทย ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่อาจจะมีข้อจำกัดเรื่องการเข้าถึงของผู้บริโภคที่ไม่ได้กระจายกว้างขวางเหมือนร้านอาหารขนาดใหญ่ แต่เป็นร้านดังที่มีเอกลักษณ์และรสชาติอาหารเฉพาะตัว รวมถึงเมนูโบราณ หากินยาก ซึ่งในช่วงแรก “ปิ่นโตฮับ” ได้รวบรวมร้านเด็ดเมนูดังไว้ในแพลตฟอร์มแล้ว 21 ร้าน จำนวน 66 เมนู

“ปิ่นโตฮับ เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยคนตัวเล็กหรือธุรกิจอาหารเอสเอ็มอีของไทยที่เราจะเข้าไปช่วยสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับอาหารไทยได้กว้างขวางขึ้น จนถึงการสร้างซอฟต์เพาวเวอร์ด้วยการต่อยอดขยายธุรกิจอาหารเอสเอ็มอีของไทยไปสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลก ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจหลักของ

‘ดุสิต ฟู้ดส์’ และกลุ่มดุสิตธานี นั่นคือ Bring Asian Food to The World และด้วยความร่วมมือของ ‘ฟาร์ม ทู เพลท’ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและมีเทคโนโลยีทั้งด้านการพัฒนาสูตรอาหาร จนได้รสชาติเดียวกันกับร้านต้นตำรับ ซึ่งผ่านการรับรองรสชาติจากร้านต้นตำรับแล้ว ขณะเดียวกัน อาหารร้านเด็ดเมนูดังทุกรายการบนแพลตฟอร์ม ‘ปิ่นโตฮับ’ ยังเก็บคุณค่าทางโภชนาการได้อย่างครบถ้วน ถูกสุขอนามัย และเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้ร้านอาหารไทย และสตรีทฟูดของไทยอีกด้วย” น.ส.มณิศากล่าว

สำหรับร้านอาหารที่รวบรวมใน “ปิ่นโตฮับ” จำนวน 21 ร้าน เป็นร้านจากจังหวัดเชียงใหม่ 6 ร้าน ภูเก็ต 1 ร้าน และกรุงเทพฯ 14 ร้าน เช่น บ้านยี่สาร อาหารไทย ขาหมูเลิศรส.ก๋วยจั๊บกำลังภายใน ข้าวพระรามลงสรง (เล้าโอว) ข้าวซอยซอกกำแพงดิน ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม โจ๊กสดใส ครัวจงจิต เป็นต้น โดย “ปิ่นโตฮับ” จะทำงานร่วมกับเจ้าของร้านในการพัฒนาสูตรเป็นกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน และมีรสชาติเหมือนต้นตำรับ และแต่ละเมนูที่วางขายจะอยู่ภายใต้ชื่อเดิมของเอสเอ็มอีเจ้าของแบรนด์นั้นๆ โดยทุกๆ เมนูที่ขาย ทางเอสเอ็มอีเจ้าของแบรนด์จะส่วนรับแบ่งรายได้เป็นเปอร์เซ็นต์

ในส่วนของช่องทางการจำหน่ายของ “ปิ่นโตฮับ” จะดำเนินการผ่าน 2 ช่องทางหลัก ได้แก่ ช่องทาง ONLINE คือ การเสิร์ฟอาหารผ่านช่องทางดิลิเวอรี ซึ่ง “ปิ่นโตฮับ” ได้ผนึกความร่วมมือกับ “แกร็บ แท๊กซี่” (Grab Taxi) ในการเป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ตเนอร์ ที่จะอำนวยความสะดวกในการจัดส่งอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทานถึงบ้านลูกค้าจากจุดให้บริการ 10
แห่งครอบคลุมพื้นที่หลักในกรุงเทพฯ ตอกย้ำแนวคิดหลักในการ “นำความอร่อยมาไว้ใกล้บ้าน” ของ “ปิ่นโตฮับ” ขณะเดียวกัน ยังมีช่องทาง ONSITE ในรูปแบบ “คีออสก์” (Kiosk) ที่ลูกค้าสามารถซื้ออาหารกลับไปกินที่บ้านได้ หรือรูปแบบหน้าร้าน ที่ลูกค้าสามารถเข้ามากินที่หน้าร้านหรือซื้อกลับบ้านได้

“นอกจากโซลูชันของ “ปิ่นโตฮับ” จะเป็นการช่วยขยายโอกาสให้ธุรกิจอาหารเอสเอ็มอีของไทยและสตรีทฟูดไทยไปทั่วโลกแล้ว การสร้างแพลตฟอร์มที่รวบรวมอาหารริมทางที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยมาไว้ในที่เดียว ยังเป็นการปกป้องมรดกทางอาหารที่มั่นใจได้ว่า สูตรอาหารและรสชาติอันล้ำค่าเหล่านี้จะไม่สูญหายไป ขณะเดียวกัน เรายังสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนซึ่งเป็นท้องถิ่นของเจ้าของอาหาร ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ของกลุ่มดุสิตธานี และดุสิต ฟู้ดส์ ที่การดำเนินธุรกิจของเราจะคำนึงพื้นฐาน 4 ประการ นั่นคืออาหารจากธรรมชาติ (Be Natural) อาหารออแกนิก (Be Organic) อาหารเพื่อสุขภาพ (Be Healthy) และการช่วยเหลือและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน (Support The Local Community) ขณะเดียวกัน กลุ่มดุสิตธานียังมองเห็นโอกาสในการขยายช่องทางการจำหน่ายอาหารที่รวบรวมไว้ใน ‘ปิ่นโตฮับ’ เพื่อให้บริการในโรงแรมของกลุ่มดุสิตธานีที่กระจายอยู่ทั่วโลกอีกด้วย” น.ส.มณิศากล่าว

นายราจีฟ อนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟาร์ม ทู เพลท โพรเซสเซอร์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความร่วมมือครั้งนี้มฟาร์ม ทู เพลท จะใช้ความชำนาญด้านนวัตกรรมในการคงรสชาติอาหารตามสูตรต้นฉบับ และเก็บรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ ขณะที่กลุ่มดุสิตธานี จะใช้ความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ช่วยต่อยอดให้ร้านอาหารเอสเอ็มอีสามารถขยายสาขา เพื่อส่งต่อความอร่อยให้ผู้บริโภคได้มากขึ้นและกว้างขึ้น โดยพาร์ตเนอร์ร้านอาหารขนาดเล็กของเราทั้ง 21 ร้าน จะได้รับการส่งเสริมให้เมนูยอดนิยมของแต่ละร้านเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ และสามารถนำความอร่อยไปสู่ลูกค้าในต่างประเทศให้ได้สัมผัประสบการณ์อาหารสตรีทฟูดที่มีเสน่ห์ของไทยในอนาคตอีกด้วย”

ทั้งนี้ “ปิ่นโตฮับ” คาดว่า ปี 2568 จะสามารถขยายจุดให้บริการ/สาขาผ่านช่องทางแฟรนไชส์ไปต่างจังหวัด โดยวางเป้าหมาย 50 จุดบริการ/สาขาในประเทศไทย ก่อนที่จะขยายแฟรนไชส์ “ปิ่นโตฮับ” ไปในต่างประเทศในอีก 3-5 ปีข้างหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น