xs
xsm
sm
md
lg

The Aspen Tree จับมือ 2 ศูนย์วิจัยชั้นนำ นำผลวิจัยประยุกต์ใช้จริง ตอบโจทย์เทรนด์โลกสังคมสูงวัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ โครงการที่อยู่อาศัยเพื่อวัยอิสระ ร่วมกับ 2 ศูนย์วิจัยชั้นนำ "Baycrest ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงวัยระดับโลกจากแคนาดา และศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนภายใต้ MQDC เปิดผลการศึกษาและพัฒนางานวิจัยเชิงลึกด้านสมอง การชะลอความเสื่อม และหาแนวทางป้องกันโรคทางสมองที่เกิดจากความเสื่อมตามวัย พัฒนาองค์ความรู้เพื่อยกระดับการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อวัย 50+ อย่างแท้จริง รับมือในอีก 30 ปีข้างหน้า ประชากรสูงอายุทั่วโลกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 30-40% ห่วงสถานการณ์ภาวะสมองเสื่อมในไทยจะเพิ่มขึ้นถึง 257% ใน 30 ปีข้างหน้าเช่นกัน

จากรายงานจาก Statista พบว่า ประชากรสูงอายุทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 20-30% ของประชากรทั้งหมด ในปี 2563 เป็น 30-40% ในปี 2593 ซึ่งหมายถึงประชากรโลก 1 ใน 6 คนเป็นผู้สูงอายุ และยังมีรายงานในวารสาร Lancet Public Health ในปี 2565 คาดการณ์ว่าประชากรโลกที่มีภาวะสมองเสื่อมจะเพิ่มขึ้นมากถึง 166% ในปี 2593 นับจากปี 2562

สำหรับประเทศไทย ประเด็นเรื่องสังคมผู้สูงอายุแม้จะมีการรับรู้มาอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นประเด็นที่ต้องกังวล เนื่องจากมีส่วนสัมพันธ์กับภาพรวมทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่าประชากรอายุเกิน 60 ปี ซึ่งมีประมาณ 20% ของประชากรทั้งหมดเมื่อปี 2565 จะเพิ่มเป็น 40% ในอีก 30 ปีข้างหน้า หรือในปี 2593 และที่น่าเป็นห่วง คือ ผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อมในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นถึง 257% ใน 30 ปีข้างหน้าเช่นกัน

ซึ่ง นายคริสเตียน ทอยวาเนน ผู้อำนวยการบริหาร โครงการ ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Aspen Tree The Forestias) กล่าวว่า ถึงแม้ว่างานวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และเวชศาสตร์การแพทย์จะเป็นอีกส่วนสำคัญที่จะนำมาใช้ที่ศูนย์บริการทางการแพทย์เฉพาะทางสมองและฟื้นฟูสุขภาพ (Health & Brain Center) ของดิ แอสเพน ทรี ที่จะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้อีกด้วย

ทั้งนี้ ทางดิ แอสเพน ทรี ได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มค่าเฉลี่ยอายุที่สูงขึ้นของประชากรส่วนใหญ่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย จึงได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับประชากรกลุ่มดังกล่าวโดยเฉพาะ โดยตั้งเป้าให้เป็นโครงการแห่งแรกของโลกที่มอบการดูแลอย่างครบวงจรตลอดชีวิต


“กลุ่มวัยอิสระนับเป็นประชากรที่มีความสำคัญต่อสังคม เพราะคนกลุ่มนี้จำนวนมาก มีความสามารถและประสบการณ์มากมาย หลายคนยังแอ็กทีฟ สามารถทำงาน ทำประโยชน์เพื่อสังคมได้ไม่ด้อยไปกว่า ประชากรวัยทำงาน การส่งเสริมให้คนกลุ่มนี้ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขามีความสุข แต่ยังส่งผลถึงการพัฒนาสังคมที่มีคุณภาพในทุกมิติ โครงการดิ แอสเพน ทรี ได้ร่วมมือกับ Happiness Science Hub by RISC และ Baycrest โดยพร้อมจะเป็น sandbox หรือสถานที่ที่ให้นวัตกรจากศูนย์วิจัยและพันธมิตร ได้นำนวัตกรรมมาใช้ภายในโครงการเป็นแห่งแรก เพื่อประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัยในโครงการ และการศึกษาพัฒนาต่อยอดในอนาคตอีกด้วย”

ดร.สฤกกา พงษ์สุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายบูรณาการงานวิจัยเพื่อการเผยแพร่ ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนภายใต้ MQDC (RISC by MQDC) และหัวหน้าทีมวิจัยศาสตร์แห่งความสุขเชิงวิทยาศาสตร์ (Happiness Science Hub) เราจะนำนวัตกรรมจากศูนย์วิจัยศาสตร์แห่งความสุขเชิงวิทยาศาสตร์มาใช้ในโครงการดิ แอสเพน ทรี เป็นแห่งแรก เนื่องจากเป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความสุขทั้งกายและใจอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของเรา ที่สำคัญ ดิ แอสเพน ทรี ยังเน้นกลุ่มเป้าหมายคนวัย 50+ ซึ่งเป็นกลุ่มวัยที่เหมาะจะนำงานวิจัยของเราไปประยุกต์ใช้ ก่อนที่จะเผยแพร่ความรู้ที่ค้นพบใหม่นี้สู่สาธารณะ

ในการทำงานวิจัยนี้ RISC ยังได้รับความร่วมมือจากนักวิจัย นวัตกร และผู้เชี่ยวชาญ พันธมิตรจากหลากหลายสาขา เช่น ศูนย์ปฏิบัติการเชื่อมต่อสมองกับคอมพิวเตอร์ (Brain-computer Interface Lab: BCI) ภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) มหาวิทยาลัยมหิดล ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมประสาทวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ศูนย์วิจัยด้านประสาทวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สถาบันพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และอื่นๆ เพื่อนำความรู้ไปต่อยอดอีกด้วย


รศ.ดร.ซิด เฟลด์แมน ผู้อำนวยการฝ่ายเวชศาสตร์ครอบครัวและชุมชน เบย์เครสท์ เซ็นเตอร์ และหัวหน้าแผนกการดูแลผู้สูงอายุ มหาวิทยาลัยโทรอนโต ประจำมหาวิทยาลัยโทรอนโต กล่าวว่า โครงการ ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ จะเป็นโครงการที่ช่วยบุกเบิก เสริมสร้างความรู้ด้านสุขภาพ ความเข้าใจและการดูแลสุขภาพที่ดีของผู้สูงอายุ ทั้งแนวคิดการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุในประเทศไทยและในโลก ด้วยสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตที่ออกแบบด้วยนวัตกรรม และยังมีโปรแกรมด้านสุขภาพ และการมุ่งเน้นไปที่การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ล้ำหน้าต่างๆ เพื่อยกระดับโปรแกรมการดูแลความเป็นอยู่ให้ผู้อยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น