"เทอร์ราไบท์ พลัส " เคาะราคาที่หุ้นละ 1.75 บาท เปิดจองซื้อหุ้น Pre-emptive Rights วันที่ 3 – 5 เมษายน 2567 และเปิดจองซื้อ 9 – 11 เมษายน 2567 จ่อคิวลงกระดานเทรด mai วันที่ 24 เมษายน 2567 นี้ พร้อมแต่งตั้ง บล. บียอนด์ และ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ผนึกบริษัทหลักทรัพย์ 3 แห่ง ร่วมจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินบริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ TERA เปิดเผยว่ากำหนดราคา IPO หุ้น TERA ที่หุ้นละ 1.75 บาท และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจเทคโนโลยี (TECH) วันที่ 24 เมษายน 2567 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TERA”
สำหรับการกำหนดราคา IPO ดังกล่าว ถือเป็นระดับราคาเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ อีกทั้งธุรกิจมีโอกาสเติบโตสูงจากการที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิต ไลฟ์สไตล์ และการประกอบธุรกิจมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมในการขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตที่มีความสอดคล้องกับสภาวะตลาดปัจจุบัน รวมถึงยังมีจุดเด่นด้านผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง
โดย TERA เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 37.50% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่าย โดยกำหนดวันจองซื้อหุ้น Pre-emptive Rights ระหว่างวันที่ 3 – 5 เมษายน 2567 และเปิดจองซื้อ 9 – 11 เมษายน 2567 พร้อมต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO พร้อมผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 3 แห่ง คือ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด
นอกจากนี้ หุ้น TERA ยังมีค่า P/E Ratio หรือราคาตลาดต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของ P/E Ratio ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าหุ้น TERA จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดย TERA เป็นผู้ให้บริการโซลูชันด้านเทคโนโลยีครบวงจรที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 19 ปี
นายสุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบ TERA กล่าวว่า TERA ประกอบธุรกิจให้บริการเกี่ยวกับระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology: ICT) ขนาดใหญ่แบบครบวงจร ให้บริการและลงทุนในกิจการอื่นที่ให้บริการด้านซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันทางธุรกิจต่างๆ
ทั้งนี้ ภายหลังจากการระดมทุน บริษัทฯ มีแผนนำเงินไปลงทุนในระบบ Cloud เพื่อเพิ่มปริมาณการให้บริการ T.Cloud แก่ลูกค้าที่ต้องการใช้ Local Cloud ในการจัดเก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของ บริษัทฯ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ซึ่งมั่นใจว่า TERA จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม