โรงพยาบาลเอกชล ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15% หรือแตะ 2 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ทำไว้ประมาณ 1,800 ล้านบาท หลังปรับปรุงอาคาร รวมถึงห้องพักผู้ป่วยให้ทันสมัยและเพิ่มมาตรฐานบริการเฉพาะทาง พร้อมขยับค่าบริการเพิ่ม 5-10% เดินหน้าเจรจาพันธมิตรเพื่อร่วมพัฒนาเพิ่มการรักษาบริการหลากหลายหนุนศักยภาพรองรับการแข่งขันสูง
นายสิริพจน์ มาโนช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร บริษัท โรงพยาบาลเอกชล จำกัด (มหาชน) หรือ AHC เปิดเผยปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ที่ประมาณ 2 พันล้านบาท หรือ 15% จากปี 66 ที่ทำไว้ประมาณ 1,800 ล้านบาท หลังจาก AHC ได้ปรับปรุงและพัฒนาโรงพยาบาลด้วยเป้าหมาย smart hospital ซึ่งโรงพยาบาลได้อัดงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท และปิดปรับปรุงอาคารและห้องพักผู้ป่วยตั้งแต่ปลายปี 66 ด้วยกลยุทธ์สร้างจุดแข็งเพื่อเพิ่มโอกาสการแข่งขัน ยกระดับความเชี่ยวชาญการแพทย์ พัฒนาบริการเฉพาะทาง ซึ่งปัจจุบันการปรับปรุงดังกล่าวแล้วเสร็จและเปิดให้บริการตามแผนแล้ว
โดยแผนกผู้ป่วยนอก หรือ OPD และแผนกผู้ป่วยใน หรือ IPD เริ่มทยอยเปิดตามปกติเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่แผนกของผู้ป่วยเด็กและ ICU เตรียมเปิดให้บริการปลายเดือนพฤษภาคมปีนี้ และหลังการเปิดให้บริการตามปกติเต็มรูปแบบคาดว่าเริ่มเห็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนช่วงไตรมาส 3 เนื่องจากช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน เป็นช่วงที่ตัวเลขผู้ป่วยพุ่งสูง
"จากข้อมูลของโรงพยาบาลเรา พบตัวเลขผู้ใช้บริการของผู้สูงอายุและเด็กมีกว่า 65% ของจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมด โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องการแพทย์ พยาบาลเพื่อดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งมีแนวโน้มอัตราการใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นจึงทำให้เราเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และภายหลังการปรับปรุงห้องผู้ป่วยแล้วเสร็จ เราจะคิดค่าบริการเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 5-10%" นายสิริพจน์ กล่าว
นายสิริพจน์กล่าวถึงดีลใหม่ที่อยู่ในระหว่างศึกษาและเจรจากับพันธมิตรเพื่อเพิ่มศักยภาพและขยายการบริการให้หลากหลายมากขึ้นรองรับความต้องการของผู้ป่วย และเป็นการสร้างรายได้ให้หลากหลายเพื่อการเติบโตของรายได้ให้มั่นคงในระยะยาว หลังจากประสบผลสำเร็จจากการได้ Id Hospital โรงพยาบาลศัลยกรรมที่มีชื่อเสียงติดอันดับท็อป 5 ในเกาหลีใต้เปิดตัวแผนกนวัตกรรมสุขภาพและความงามครบวงจร (Wellness & Plastic surgery) เพื่อสร้างความร่วมมือแลกเปลี่ยนความรู้ทางการแพทย์ในด้านการทำศัลยกรรมพลาสติก (Plastic Surgery) รวมถึงร่วมดูแลการทำศัลยกรรมตกแต่งอย่างครบวงจร ซึ่งปีนี้เปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้แล้ว
“ดีลที่เราเจรจาอยู่เราค่อยๆ ศึกษาและต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ส่วนงบสำหรับลงทุนนั้นเรายังไม่มีนโยบายเพิ่มทุนหรือออกหุ้นกู้ เราจะใช้เงินทุนที่มีอยู่ ซึ่งงบที่มี 300-400 ล้านบาท รองรับการลงทุนในระยะ 3-4 ปีนี้ นั่นจึงทำให้ตัวเลขหนี้สินเรามีเพียงแค่ 0.18 เท่าในปัจจุบัน”
สำหรับปีนี้ AHC จะเน้นบริหารต้นทุนทุกด้านทั้งการเจรจาซื้อยาในราคาที่เคยซื้อเพื่อจะได้ไม่ผลักภาระให้ผู้ป่วย อีกทั้งเพิ่มนวัตกรรมและยกระดับความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ เพื่อให้ต้นทุนต่ำลงอันจะหนุนตัวเลข net profit margin ที่บริษัทตั้งเป้ารักษาไว้ไม่ให้ต่ำกว่า 9%
อย่างไรก็ดี AHC ยอมรับว่าธุรกิจโรงพยาบาลในภาคตะวันออกรุนแรงมาก หลังจากที่โรงพยาบาลดังๆ หลายแห่งในกรุงเทพฯ ต่างเดินหน้าขยายสาขาในพื้นที่ให้มากขึ้น ดังนั้น การเพิ่มการให้บริหารเฉพาะทางและความเชี่ยวชาญของแพทย์ทำให้ผู้ป่วยไว้วางใจ ตลอดจนอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยและปลอดภัย เพื่อดึงให้มีผู้ป่วยเข้ามารักษาเพิ่มตามเป้า