นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนอาจจะไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันในช่วงต้นปีนี้ โดยคาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังคงทรุดตัวลงมากที่สุด ซึ่งจะยิ่งทำให้ตลาดไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจีนจะสามารถพยุงเศรษฐกิจและนำพาเศรษฐกิจให้สามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ระดับประมาณ 5% ได้หรือไม่
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) จะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (18 มี.ค.) ซึ่งรวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก ยอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และอัตราว่างงาน
นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกของจีนอาจเพิ่มขึ้น 5% ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือน ธ.ค.ที่ขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.4% ขณะเดียวกันคาดว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.อาจเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือน ธ.ค.ที่มีการขยายตัว 6.8%
กิจกรรมในภาคการผลิตของจีนเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นตัวในปีนี้ โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือน ก.พ.หดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่อุปสงค์หลังเทศกาลตรุษจีนที่อ่อนแอลงมากกว่าคาดนั้น ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาเหล็กและทำให้โรงงานถลุงเหล็กในจีนพากันลดการผลิตในเดือน มี.ค.
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนอาจปรับตัวขึ้น 3.2% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นการขยายตัวรวดเร็วกว่ายอดการลงทุนตลอดปี 2565 ที่มีการขยายตัว 3% โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลเข้าลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน
ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ โดยคาดว่าการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์อาจลดลง 8% ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. หลังจากลดลง 9.6% ในปี 2566 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 ปี
รัฐบาลจีนได้กำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2567 ไว้ใกล้เคียงกับในปี 2566 แต่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าการที่จีนจะบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ระดับ 5% ในปีนี้อาจจะเป็นเรื่องยาก โดยเรย์มอนด์ ยัง หัวหน้านักเศรษฐกิจฝ่ายกิจการจีนแผ่นดินใหญ่และจีนโพ้นทะเล (Greater China) ของออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ปกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนจำเป็นต้องมีการฟื้นตัวมากขึ้นตั้งแต่ในเดือน มี.ค.และตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ จึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่รัฐบาลกำหนดไว้ได้