xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ระดับ 35.82 ผันผวนอ่อนค่ารับดอลล์แข็ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย 
เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (15 มี.ค.) ที่ระดับ 35.82 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงหนักจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 35.62 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.65-35.95 บาท/ดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนก่อนหน้าค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 35.60-35.82 บาทต่อดอลลาร์) ตามการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยิลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI รวมถึงยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างกังวลว่า เฟดอาจยิ่งไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย สะท้อนจากการทยอยปรับลดโอกาสเฟดปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายนเหลือ 63% (จากเกือบ 75% ในสัปดาห์ก่อนหน้า) นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยิลด์ 10 สหรัฐฯ ยังได้กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงแรงสู่โซนแนวรับระยะสั้นอีกครั้ง ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะปรับตัวลง ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรง จากการที่ IEA ปรับคาดการณ์แนวโน้มอุปสงค์น้ำมันที่สูงขึ้น พร้อมปรับลดอุปทานน้ำมันจากคาดการณ์ก่อนหน้า ทำให้มีผู้เล่นในตลาดบางส่วนต่างทยอยเข้าซื้อน้ำมันดิบเพิ่มเติม ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำและน้ำมันดิบมีส่วนกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่า

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทเสี่ยงที่จะผันผวนอ่อนค่าลงตามโมเมนตัมการอ่อนค่าที่เพิ่มกำลังมากขึ้น สอดคล้องกับการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ยังได้แรงหนุนจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งยังคงสดใสและดีกว่าคาด ขณะเดียวกัน สัญญาณเชิงเทคนิคัลเริ่มสะท้อนโอกาสที่เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้ (กราฟเงินบาทอาจเกิด Doji Morning Star pattern ไม่น่ามานี้ ส่วน RSI, MACD เริ่มมีแนวโน้ม Bullish มากขึ้นสำหรับ USDTHB ใน Time Frame Daily) ซึ่งหากเงินบาทเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำและน้ำมันดิบ รวมถึงแรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าทดสอบแนวต้านสำคัญและเป็นแนวต้านเชิงจิตวิทยาแถว 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทอาจถูกชะลอลงบ้างจากโฟลว์ขายเงินดอลลาร์ของบรรดาผู้ส่งออกที่ต่างรอจังหวะให้เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลง

อนึ่ง เราคงมุมมองเดิมว่าการกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินบาทนั้นอาจยังคงจำกัด เนื่องจากเงินบาทยังขาดปัจจัยหนุนการแข็งค่าที่ชัดเจน ทำให้เงินบาทอาจติดอยู่ในโซนแนวรับแถว 35.70 บาทต่อดอลลาร์ (แนวรับสำคัญถัดไป 35.50 บาทต่อดอลลาร์)

นอกจากนี้ ควรระวังความผันผวนของเงินบาทจากการเคลื่อนไหวของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ในวันนี้ ที่อาจผันผวนไปตามผลการเจรจาต่อรองค่าจ้าง Shunto และการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของ BOJ ส่วนในช่วงกลางคืนราว 21.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ควรระวังความผันผวนของตลาดในช่วงผู้เล่นในตลาดทยอยรับรู้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาคาดการณ์แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อระยะสั้นและระยะยาวจากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคดังกล่าวเช่นกัน

ส่วนในฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานครั้งแรกของผลการเจรจาต่อรองค่าจ้าง (Shunto) ของญี่ปุ่นว่าจะเห็นการปรับขึ้นค่าจ้างที่สูงขึ้นต่อเนื่องตามที่ตลาดคาดหวังหรือไม่ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดได้คาดหวังว่า ค่าจ้างจะมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นพอสมควร จนทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจทยอยปรับใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ตั้งแต่การประชุมเดือนมีนาคมนี้ (สัปดาห์หน้า) ซึ่งมุมมองดังกล่าวของผู้เล่นในตลาดส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมา เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ได้พลิกกลับมาแข็งค่าเร็วและแรงพอสมควร ก่อนที่จะพลิกกลับมาอ่อนค่าลงบ้างจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาด
กำลังโหลดความคิดเห็น